· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 1.3% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในวันนี้ รวมถึงหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเช่นกัน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขู่ว่าจะประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จึงส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Trade War
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง และภาพรวมรายวันปรับตัวมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หลังจากที่หุ้นจีนร่วงลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์การค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปรับลดลง 1.8% ที่ระดับ 22,278.48 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับตัวลดลงกว่า 4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยทางจีนเตรียมมาตรการตอบโต้ โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับลดลง 3.8% ที่บริเวณ 2,907.82 จุด
· หุ้นบริษัท ZTE ปรับร่วงลงอย่างหนักกว่า 24% ทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังมีแนวโน้มว่านโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะยกเลิกการห้ามจำหน่ายสินค้าของ ZTE ในสหรัฐฯจะประสบอุปสรรคในสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้หุ้น ZTE ได้ปรับร่วงลงต่อเนื่องมากว่า 38% และสูญเสียมูลค่าทางตลาดไปมากกว่า 7 พันล้านเหรียญ
· ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เชื่อเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง หลังรัฐเดินหน้ากระตุ้นลงทุนทั้งโครงสร้างพื้นฐานและ EEC ดันความต้องการสินเชื่อพุ่ง มั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 5%
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยในงานสัมมนา "AEC Business Forum 2018" ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก หลังภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ โครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า และ ยังมีการลงทุนใน EEC ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่มีการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งคาดว่าสินเชื่อปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 5%
· ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล มีวาระน่าสนใจดังนี้
- สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะเสนอขออนุมัติงบประมาณระบบสารสนเทศหรือไอซีทีและระบบสาธารณูปโภคในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังจากได้วางกรอบปรับลดงบประมาณระบบสารสนเทศเหลือ 3,000 ล้านบาท และระบบสาธารณูปโภค 587 ล้านบาท ตามกรอบประมูลการก่อสร้างครั้งแรก
- กระทรวงการคลัง เสนอที่ประชุมพิจารณาต่ออายุคงภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 7 ออกไปอีก 1 ปี
- ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าจะเลื่อนจากวันที่ 26 มิ.ย. เป็นวันที่ 27 มิ.ย. เนื่องจากนายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนสหภาพยุโรป (อียู) ในระหว่างวันที่ 19-26 มิ.ย.นี้ ซึ่งการเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสครั้งนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับมติของทางอียูที่ผ่อนคลายนโยบายต่าง ๆ กับรัฐบาลไทย จึงจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าในเรื่องการค้าการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งมีหลายประเทศให้ความสนใจการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งหารือถึงความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวด้วย