โดยนายทรัมป์ระบุว่า การขุ่มขู่จะขึ้นภาษีอีก 10% ครั้งนี้ เป็นการต่อต้านที่ทางการจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีจีนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
· นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างผลกระทบในเชิงลบต่อเกษตรกรสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอย่างแอปเปิ้ล เมล็ดถั่วเหลือง และข้าวโพด เนื่องจากจีนถือเป็นคู่ค่าหลักของสินค้ากลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Ohio State University คาดการณ์ว่า นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจะส่งผลให้เกษตรกรในรัฐโอไฮโอสูญเสียรายได้จากการส่งออกข้าวโพดลงไปกว่า 30%ในปี 2018 และถ้าหากนโยบายภาษียังมีผลต่อไป รัฐโอไฮโอก็มีโอกาสสูญเสียรายได้ไปกว่า 63% ภายในปี 2019
· รายงานจากสื่อจีนกล่าวตำหนิแผนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีแผนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 25% คิดเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญ โดยสื่อจีนแสดงความคิดเห็นต่อนายทรัมป์ว่า “คนฉลาดจะสร้างสะพาน แต่คนโง่จะสร้างกำแพง”
หลังจากที่วันศุกร์ นายทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อเป็นบทลงโทษต่อการขโมยหรือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ขณะที่จีนประกาศจะทำการตอบโต้มาตรการดังกล่าว ด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้า 659 รายการของสหรัฐฯอีก 25% คิดเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญเช่นกัน
และประเด็น Trade War ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่นั้นปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ สื่อจีนรายงานว่า จีนมีการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯมูลค่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับสินค้าทางการเกษตร, รถยนต์ และสินค้าในกลุ่มการเดินเรือโดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค. เป็นต้นไป ขณะที่การเรียกเก็บสินค้าอื่นๆจากสหรัฐฯน่าจะประกาศในอีกไม่กี่วันนี้
· นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เดินทางมาถึงประเทศจีนแล้วในวันนี้ และจะพบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมร่วมกันระหว่างนายคิมและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางการสหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้ตกลงที่จะระงับการซ้อมรบร่วมกัน
สำนักข่าวของจีนเปิดเผยว่านายคิมจะพักอยู่ในประเทศจีนแค่ 2 วันก่อนที่จะเดินทางออกจากประเทศ ขณะที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
· รัฐบาลจีนเตรียมประกาศเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นในบางกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินการเปิดกว้างตลาดจีนและผ่อนคลายกฏระเบียบสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน กล่าวว่า จะดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯหากสหรัฐฯยังคงเดินหน้าลงโทษจีนด้วยการเพิ่มรายการสินค้าภาษีนำเข้าสินค้า
ทั้งนี้ จีนจะทำการปกป้องผลประโยชน์ ด้วยมาตรการ QE และมาตรการตอบโต้อื่นๆ หากถูกคุกคามทางการค้า ซึ่งทางการจีนได้กล่าวเตือนว่า การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าครั้งใหม่ระหว่าง 2 ประเทศ อาจส่งผลให้ภาคบริษัทต่างๆ และประชาชนของทั้งสองประเทศนั้นได้รับผลกระทบเชิงลบไปด้วย
· หัวหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในญี่ปุ่น แสดงท่าทีวิตกกังวลต่อข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจนำไปสู่ “ความเสียหาย” ต่อภาคการค้าทั่วโลก และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างสูง หากว่าข้อขัดแย้งทางการค้านี้ทวีความรุนแรงขึ้นและทำให้เกิดการเรียกเก็บภาษีจำนวนมากๆ และนี่เป็นปัญหาใหญ่หากว่าข้อตกลงทางการค้าโลกอย่าง WTO ไม่สามารถควบคุมได้
ขณะที่นายทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านเหรียญ และนี่จึงเป็นปัญหา Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 1% จากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดโลกจำนวนมาก