บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกดูมีแนวโน้มที่จะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ในการประชุม ณ กรุงเวียนนา แม้จะยังดูมีความขัดแย้งเกี่ยวกับทิศทางของการเมืองและผลประโยชน์ของการส่งออกน้ำมันอยู่ก็ตาม
โดยบรรดารัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มารวมตัวกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อลดปริมาณอุปทานน้ำมันในตลาดโลกและหนุนราคาน้ำมันที่ได้ดำเนินการมากว่า 18 เดือน แต่เนื่องจากราคาน้ำมันในปัจจุบันได้เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง การประชุมครั้งนี้จึงอาจเป็นการตัดสินว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ เพื่อป้องกันภาวะ Overheat ของตลาดน้ำมัน
ทางฝั่งซาอุดิอาระเบียและรัสเซียที่มีศักยภาพมากพอในการเพิ่มกำลังการผลิต ได้ประกาศให้การสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว ขณะที่ประเทศกลุ่มที่ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างอิรัก, อิหร่าน, และเวเนซุเอลา ต่างต่อต้านแนวคิดของซาอุฯและรัสเซีย
ท่ามกลางความแตกต่างทางความคิดของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน จึงก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าการประชุมของกลุ่มโอเปกครั้งนี้ อาจลงเอยเหมือนการประชุมในปี 2011 ที่ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันได้บ่งชี้ถึงสัญญาณ0ว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
Daniel Yergin รองประธานของ IHS Markit ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าการประชุมโอเปกครั้งนี้จะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ โดยท่าทีของการประชุมเริ่มดูดีตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว
ขณะที่ Bijan Zanganeh รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันแห่งอิหร่าน ที่ก่อนหน้านี้มองว่ากลุ่มโอเปกจะไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ พร้อมกล่าวโทษว่าการที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เกิดจากนโยบายคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุอาลาของสหรัฐฯ แต่ล่าสุดเขาได้ออกมาเปิดเผยว่าเขามีมุมมองที่ “ดีมาก” กับการประชุมโอเปกครั้งนี้
Christyan Malek นักวิเคราะห์จาก J.P. Morgan ประเมินว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถหาข้อตกลงที่จะทำให้ทั้งอิหร่าน รวมไปถึงรัสเซียและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆนอกกลุ่มโอเปกพึงพอใจ ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ขณะที่คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยอาจจะเริ่มต้นจากจำนวน 500,000 บาร์เรล/วันเสียก่อน
ที่มา: CNBC