· ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 196.1 จุด คิดเป็น -0.8% ที่ระดับ 24,461.7 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.63% ที่ระดับ 2,749.76 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.63% ที่ระดับ 2,749.76 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงติดต่อกัน 8 วันทำการท่ามกลางภาวะความกังวลในภาคอุตสาหกรรมต่อ Trade War ขณะที่หุ้นบริษัทอเมซอนและกลุ่มผู้ค้าปลีกออนไลน์รายอื่นๆอ่อนตัวลง หลังจากที่ศาลฎีกาสหรัฐฯมีการพิจารณาการเก็บภาษีการขาย
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงเช้านี้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยตลาดยังคงมีความกังวลต่อภาวะ Trade war ระหว่างสหรัฐฯและจีน
ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด -0.97% จากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่เปิดร่วง 1.65% ในเช้านี้ ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาลีใต้เปิด -0.43%
· นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.90-33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้เงินบาทอ่อนค่ามากสุดในภูมิภาค ระหว่างวันทำ New High ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.60 น่าจะเป็นผลจากมี flow ไหลออก ขณะที่ทางการยังไม่มีมาตรการที่จะเข้ามาดูแล เหมือนอย่างอินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ช่วงสองสัปดาห์นี้เงินบาทผันผวนจาก 32.00 บาท/ดอลลาร์ มาแตะ 33.00 บาท/ดอลลาร์
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจจะส่งผลพลอยได้บางส่วนมายังสินค้าส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2561 แต่ท้ายที่สุด คาดว่าผลกระทบทางลบอาจจะเกิดขึ้นในปี 2562ผ่านปริมาณการค้าโลกที่ลดลง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์บานปลายไปมากกว่าการขึ้นภาษีในรอบนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะพลิกกลับมาเป็นลบได้ ขึ้นอยู่กับรายการสินค้าที่จะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม