· ตลาดเผชิญกับแรงเทขายหลังได้รับสัญญาณว่าทางคณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงมีความขัดแย้งภายในเกี่ยวกับนโยบายภาษี
โดยนายสติเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าว การออกมาตรการควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศ จะไม่จำกัดเฉพาะจากประเทศจีนเท่านั้น แต่ประเทศใดๆที่มีการขโมยเทคโนโลยีจากสหรัฐฯก็จะได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้เช่นกัน
ขณะที่ทางด้านนายปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมประจำทำเนียบขาว ได้ออกมากล่าวถ้อยแถลงที่ขัดแย้งกับนายมนูชิน โดยระบุว่า นโยบายดังกล่าวจะมีผลกับการลงทุนจากประเทศจีนเท่านั้น
· นายริค แพร์ลี่ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐฯ และนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งรัสเซีย จะพบกันภายในวันอังคารนี้ โดยทั้งคู่จะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม World Gas Conference
ทั้งนี้ นายโนวัค ได้เข้าการประชุมกับกลุ่มโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ทางรัสเซียจะเสนอให้เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ก็ตาม แต่นายโนวัคก็เห็นว่าจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นจำนวนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
· นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับนโยบายขึ้นภาษีจากสหรัฐฯ โดยระบุว่า จีนจะไม่ลังเลและจะตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯอย่างแน่นอน
“วัฒนธรรมของชาวตะวันตกคือ หากมีคนชกคุณของที่แก้มซ้าย คุณจะเอาแก้มอีกข้างหลบ แต่สำหรับชาวจีน เราจะชกกลับ” นายจิ้นผิง กล่าว
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน มีท่าทีย่ำแย่ลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งจีนก็ได้ออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศว่าจะขึ้นภาษีเช่นกัน ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มอบหมายให้ทางสำนักตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากจีนสำหรับกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านเหรียญ และเตรียมขึ้นภาษีสำหรับกลุ่มนั้นๆอีก 10%
· รายงานจากสำนักข่าว SANA ของประเทศซีเรีย เปิดเผยว่า มีขีปนาวุธจำนวน 2 ลูกของกองทัพอิสราเอล ถูกยิงตกลงสู่พื้นที่ของสนามบินประจำชาติในกรุงดามัสกัสในช่วงเช้าวันนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่ระบบป้องกันขีปนาวุธของกองทัพซีเรียไม่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกดังกล่าวได้
· ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะ Brexit ของอังกฤษได้ส่งผลให้ปริมาณการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนตร์ของอังกฤษลดลงไปมากกว่าครึ่ง ขณะที่องค์กรผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถยนตร์ในอังกฤษได้ออกมาระบุว่า นโยบายการค้าหลังอังกฤษถอนตัวจากอียูของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักความเป็นจริง
ทั้งนี้ ปริมาณการลงทุนอุตสาหกรรมรถยนตร์รุ่นใหม่ๆระหว่างเดือน ม.ค. – มิ.ย. ปรับร่วงลงสู่ระดับ 3.473 ร้อยล้านปอนด์ (4.611 ร้อยล้านเหรียญ) จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2017 ที่ระดับ 6.474 ร้อยล้านปอนด์
· รัฐบาลจีนประกาศจะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มส่วนผสมของอาหารสัตว์ รวมถึงเมล็ดถั่วเหลือง จากประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการกระตุ้นปริมานสินค้าโภคภันฑ์นำเข้าจากต่างชาติ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯที่กำลังตึงเครียดในปัจจุบัน
โดยกระทรวงการคลังออกมาเปิดเผยว่า ประเทศบังคลาเทศ อินเดีย ลาว เกาหลีใต้ และศรีลังกา จะได้รับการยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับสินค้ากลุ่ม เมล็ดถั่วเหลือง เต้าหู้ และ อาหารปลา จากเดิมที่มีภาษีอยู่ระดับ 3 - 5%
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในแคนาดาและความไม่แน่นอนของการส่งออกน้ำมันดิบลิเบีย ท่ามกล่างภาวะอุปทานของโอเปคที่เพิ่มขึ้นและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 74.86 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% ที่บริเวณ 68.38 เหรียญ/บาร์เรล