· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade war ที่เริ่มผ่อนคลายลง แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงปิดปรับตัวลดลง
โดยดัชนี Dow Jones ปิด +55.36 จุด ที่ระดับ 24,271.41 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +0.1% ที่ระดับ 2,718.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.1% บริเวณ 7,510.30 จุด
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนี Dow Jones และดัชนี S&P 500 ต่างปิด -1.3% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -2.4% ซึ่งเป็นผลประกอบที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯกำลังจะมีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์นี้
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดสัปดาห์นี้ค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆที่มีค่อนข้างเยอะภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรส่งสัญญาณผันผวนเล็กน้อยหลังสถานการณ์การเมืองในเยอรมนีส่งสัญญาณที่จะเลวร้ายลงอีกครั้ง
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญีปุ่นเปิดทรงตัว หลังจากที่ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงกว่า 2% จากความตึงเครียดเกี่ยวกับ Trade war ในประเทศจีน
ขณะที่ดัชนี Nikkei เปิด -0.2% ท่ามกลางความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นที่ดูจะได้รับผลกระทบจาก Trade war
· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในสัปดาห์ที่ไว้ที่ระหว่าง 32.80-33.40 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตลอดจนเครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ เช่น อัตราการว่างงาน ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และค่าจ้าง รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน และรายจ่ายเพื่อการก่อสร้าง เดือนพ.ค.
ขณะที่ตลาดการเงินสหรัฐฯจะปิดทำการในช่วงกลางสัปดาห์เนื่องในวัน Independence Day