Morgan Stanley ปรับเพิ่มคาดการณ์น้ำมันดิบ 7.5 เหรียญ สู่ระดับ 85 เหรียญ/บาร์เรลในข่วงครึ่งปีหลัง
Morgan Stanley คาด ตลาดน้ำมันอาจมีภาวะอุปทานลดลงภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในการจะปรับลดยอดส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน ประกอบกับผลผลิตน้ำมันดิบในลิเบียและอังโกลาร์ที่ปรับตัวลดลงกว่าที่คาด
Morgan Stanley ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งคูเวตก็อาจไม่เพียงพอที่สร้างสมดุลให้แก่ตลาดน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบอาจปรับขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ท่ามกลางทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จำกัดการนำข้าวของอิหร่านในช่วงเดือนพ.ย. เป็นต้นไป จึงอาจทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอิหร่านปรับลง 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศลิเบียและอังโกลาร์ อาจถูกกดันทำให้มีปริมาณการผลิตอยู่ที่ระดับ 600,000 บาร์เรล/วันในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ Morgan Stanley คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบ Brent ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีราคาเฉลี่ยสูงขึ้น 7.5 เหรียญ คิดเป็น 85 เหรียญ/บาร์เรล โดยสูงขึ้นจากประมาณการณ์ก่อนหน้า ขณะที่ราคาการซื้อขายน้ำมันดิบBrent ในปัจจุบันอยู่ที่ 78 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งบริเวณ 80.5 เหรียญ/บาร์เรลที่ทำไว้ในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Morgan Stanley ยังเชื่อว่า การที่สหรัฐฯจะจำกัดการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือนพ.ย. จะส่งผลให้อิหร่านอาจสูญเสียกำลังการผลิต 700,000 บาร์เรล/วันตลอดปี 2019 ได้
อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านสู่ยุโรป, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คิดเป็น 1 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 2.7 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับการขนส่ง ซึ่งจะถือเป็นการปรับตัวลงในระดับ “Minimal Levels”
ขณะที่ ประเทศซาอุดิอาระเบียมีปัจจุบันมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเฉลี่ยที่ 10.8 ล้านบาร์เรลในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเพิ่มขึ้นจากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ระดับ 10.1 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัสเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งคูเวตก็มีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิต แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะช่วยสร้างสมดุลให้แก่ตลาดได้