สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ขยับขึ้นประมาณ 0.4% ในวันนี้ มาเคลื่อนไหวแถว 1,258 เหรียญ
· เทรดเดอร์จากซิดนีย์ กล่าวว่า วันนี้ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันหยุดเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ (Independence Day) จึงทำให้เราเห็นถึงการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ลงมาบ้างเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมา 0.1% แถว 94.536 จุด
· ตลาดหุ้นเอเชียดูจะสั่นไหวต่อภาวะสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนอยู่ โดยนักลงทุนจับตาไปยังการประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าของทางสหรัฐฯในวันที่ 6 ก.ค. เนื่องจากดูจะมีการเปิดเผยการเรียกเก็บสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่านับหมื่นล้าน
ขณะที่ทางจีนกำลังสร้างแรงกดดันต่อยุโรปเพื่อทัดทานตอบโต้ต่อนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
· บรรดานักลงทุนกำลังรอคอยรายงานประชุมเฟดเดือนมิ.ย. ในวันพฤหัสบดี ประกอบกับการประกาศข้อมูลการจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯคืนวันศุกร์นี้
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Toronto-based Goldmoney Inc กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสจะกลับขึ้นแถว 1,300 เหรียญได้ หากเฟดมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินที่ลดน้อยลงไป
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 16.04 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.6% ที่ระดับ 945 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 837.8 เหรียญ หลังจากที่เมื่อวานนี้ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2008 ที่ระดับ 793 เหรียญ
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco ระบุว่า ภาพรวมราคาทองคำระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ ซึ่งหากทองคำสามารถยืนเหนือระดับแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,275 เหรียญได้ ก็จะช่วยยืนยันการฟื้นตัวกลับมาเป็นขาขึ้นระยะสั้นๆได้ แต่หากทองคำกลับหลุดลงมาต่ำกว่า 1,230 เหรียญ ก็จะส่งผลให้ระยะสั้นราคากลับลงมาเป็นขาลง สำหรับวันนี้คาดว่าราคาจะมีระดับแนวต้านบริเวณ 1,260 เหรียญ และ 1,268 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ 1,250 เหรียญ และ 1,240 เหรียญตามลำดับ
· ความเชื่อมั่นในตลาดทองคำยังคงเป็นขาลง โดยจะเห็นได้จากผลสำรวจ Kitco ที่บ่งชี้ว่า บรรดานักเก็งกำไรในตลาดกว่า 53% ขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำ 46% มองทองคำยังเป็นขาลงต่อในสัปดาห์นี้
· นักวิเคราะห์จาก Walsh Trading กล่าวว่า ราคาทองคำอาจกลับลงทดสอบ 1,238 – 1,240 เหรียญ แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรเพื่อปิดสถานะจากนักลงทุนที่ถือครองสถานะ Short อยู่บ้างก็ตาม แต่ภาพรวมการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และดูทองคำจะยังเป็นขาลงแม้ว่าจะมีการรีบาวน์ก็ยังเป็นไปในลักษณะรีบาวน์ของทิศทางขาลง
· กรรมการผู้จัดการจาก ForexLive มองว่าทองคำจะยังปรับตัวลงต่อ โดยภาพทางเทคนิคของทองคำดูจะยังอ่อนแรง และยังไม่เห็นถึงสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น
· นักวิเคราะห์จาก Heritage West Financial คาดว่าทองคำจะยังปรับลดลงจากทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ แม้จะมีแรงหนุนจากสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจากภาวะอุปทานที่ลดลง แต่ทองคำก็ยังมีภาพเป็น “ขาลง”
· บรรณาธิการจาก Eureka Miner Report มองว่าทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อจากบริเวณ 1,245 เหรียญ โดยเฉพาะภาวการณ์อ่อนค่าของค่าเงินหยวนอย่างหนัก แต่เราก็อาจเห็นทองคำปรับตัวกลับขึ้นได้จากภาวะตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ แต่หากค่าเงินหยวนยังคงอ่อนค่าก็มีโอกาสยากที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นไปแถว 1,250 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก MKS SA มีมุมมองว่า ราคาทองคำช่วงเริ่มต้นไตรมาสใหม่จะดีขึ้น เนื่องจากค่าเงินยูโรดูจะมีโอกาสแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะขอถอนประเทศสหรัฐฯออจากองค์การการค้าโลกหรือ WTO ซึ่งหากกรณีนี้เป็นจริงก็จะบั่นทอนค่าเงินดอลลาร์และทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมา เมื่อนั้นก็อาจเห็นทองคำปรับขึ้นได้
· ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายอย่างสถาบัน Adrian Day Asset Management มองว่าทองคำดูจะเคลื่อนไหว Sideways และระยะสั้นๆจะตอบรับกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก ขณะที่ประธานสถาบัน Phoenix Futures and Option LLC มองทองคำระยะสั้นเป็น Sideways เช่นกัน โดยมีเหตุผลหลักคือค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางปัจจัยต่างๆที่ยังคงมีความไม่แน่นอนที่อาจทำให้เกิดการทำ Short Covering และเห็นราคาฟื้นตัวได้ แต่เมื่อราคาฟื้นตัวก็อาจเผชิญกับแรงเทขายให้กลับลงมา