· ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 94.388 จุด หลังจากอ่อนค่าลงบริเวณ 94.177 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 26 มิ.ย. ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ได้ประเมินความเสี่ยงจากการประกาศบังคับใช้นโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯเอาไว้แล้ว ขณะที่ตลาดจะให้ความสนใจไปยังการประกาศตัวการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้
ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1694 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% แตะระดับ 1.1721 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อคืนนี้ และมีแนวโน้มจะปิดตลาดสัปดาห์นี้แบบทรงตัว
ขณะที่ค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าลง 0.2% บริเวณ 6.6506 หยวน/ดอลลาร์ แต่ยังคงห่างระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 11 เดือน ที่ 6.7204 หยวน/ดอลลาร์ ที่ขึ้นไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
· นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ป่น ระบุว่า ปัญหาข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรํฐฯและจีนดูจะส่งผลกระทบอย่างหลักหลาย และทางสหรัฐฯและจีนควรที่จะหันหน้าเจรจากันเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดยที่ทางการญี่ปุ่นก็จะเฝ้าจับตาประเด็น Trade War ทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด
· รัฐบาลจีนประกาศตอบโต้นโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ด้วยนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเป็นมูลค่าเท่ากันที่ 3.4 หมื่นล้านเหรียญ จึงเป็นการเปิดสงครามทางการค้าครั้งใหญ่ระหว่างทั้ง 2 มหาอำนาจ
· นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงเกาหลีเหนือแล้ววันนี้ โดยจุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนี้ คือเพื่อเจรจาเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ พร้อมนำร่างของทหารสหรัฐฯที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีกลับประเทศ
· รายงานจากญี่ปุ่นระบุว่า นายโทชิฮิเดะ เอนโด อธิบดีแห่งสำนักกำกับดูแล จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการประจำสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่นภายในเดือนนี้ จากนายโนบุจิกะ โมริ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะได้เห็นนายเอนโด ดำเนินการปฏิรูปภาคการเงินของประเทศสานต่อจากกรรมาธิการคนก่อน
· ภาคอุตสาหกรรมในเยอรมนีกลับมาขยายตัวได้ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะสามารถกลับมาขยายตัวต่อได้ในปีนี้ หลังจากที่เริ่มต้นปีนี้ได้คอ่นข้างอ่อนแอ
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. สามารถขยายตัวำได้ 2.6% ซึ่งเป็นอัตราที่มากทีสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.3% และเป็นการขยายตัวเดือนที่ 2 ของภาพรวมปีนี้
· การประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้ มีแนวโน้มที่บรรดาผู้ประการยังคงอัตราการจ้างงานในระดับที่แข็งแกร่ง ขณะที่ปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างให้คนงาน ซึ่งจะไปช่วยหนุนกระแสคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 2/2018 ที่ผ่านมา รวมถึงหนุนแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
โดยการจ้างงานนอกภาคการเกษตรถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า เทียบกับจำนวน 223,000 ตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. ซึ่งเศรษฐกิจจำเป็นต้องมีการเพิ่มตำแหน่งงานให้ได้อย่างน้อย 100,000 ตำแหน่ง เพื่อให้จำนวนตำแหน่งงานสอดคล้องกับจำนวนประชากรวัยทำงานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
ในส่วนของอัตราว่างงาน ถูกคาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 3.8% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งตลอดปีนี้อัตราว่างงานได้ทยอยปรับลดลงประมาณ 0.3% และเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 3.6% ที่คาดว่าจะสามารถไปถึงได้ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม จำนวนการจ้างงานในเดือน มิ.ย. อาจประกาศออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ได้ เนื่องจากมีรายงานว่าบรรดาผู้ประกอบการมีความยากลำบากในการหาคนงานที่มีทักษะสูงในตำแหน่งที่เกี่ยวกับ คนขับรถบรรทุก ช่างไม้ และช่างไฟฟ้า
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า ท่าเรือขนส่งบางท่าในประเทศจีนชะลอการดำเนินการกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่อาจคิดเป็นมูลค่าได้มากกว่าหลายสิบล้านเหรียญ เนื่องจากความสับสนเกี่ยวกับการประกาศใช้นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯและการตอบโต้ของรัฐบาลจีน
· ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในตลาดวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการประกาศนโยบายขึ้นภาษีจากจีนให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยในช่วงต้นตลาดราคาน้ำมันปรับร่วงลงไปตามตลาดหุ้นเอเชีย ก่อนที่จะกลับขึ้นมาในแดนบวกได้เล็กน้อยในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 0.2% จากระดับปิดก่อนหน้าที่ 73.10 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.1% บริเวณ 77.32 เหรียญ/บาร์เรล