ท่าทีที่แข็งกร้าวของเกาหลีเหนือหลังการเจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ที่เดินทางไปเจรจาถึงเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์เมื่อสุปสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงภัยคุกคามของเกาหลีเหนือที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงแนวโน้มที่พวกเขาอาจไม่ปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และภายหลังจากที่นายไมค์เจรจาเสร็จและเดินทางกลับสหรัฐฯ ทางเกาหลีเหนือได้ออกมากล่าวตำหนิท่าทีในการเจรจาของนายไมค์ว่าข้อเรียกร้องเหมือนกับอันธพาล
รายงานจาก Eurasia Group ประเมินว่า ท่าทีแข็งกร้าวของเกาหลีเหนือไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาจะล้มเหลวในเร็วๆนี้แต่อย่างใด แต่เป็นสัญญาณว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่มีการตอบโต้กับเกาหลีเหนือในเร็วๆนี้ ซึ่งแนวโน้มนี้ ได้รับการสนับสนุนโดยถ้อยแถลงของนายไมค์ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับท่าทีของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ Eurasia Group คาดการณ์ว่า การเจรจาระหว่างนายทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่แนวโน้มที่เกาหลีเหนือจะยอมปลดอาวุธโดยสมบูรณ์นั้นอาจเบาบางลงไป
นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group ได้ประเมินว่า นายคิมยังจำเป็นต้องรักษาอำนาจและเสียงสนับสนุนของเขาภายในเกาหลีเหนือเอง นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุทางเกาหลีเหนือมีท่าทีแข็งแกร้าวต่อสหรัฐฯ แม้จะมีการตกลงเกี่ยวกับการปลดอาวุธแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ นายคิมยังต้องการให้สหรัฐฯและโลกเข้าใจว่า พวกเขาไม่ได้เสนอสิ่งใดให้แบบฟรีๆ หรือยินดีที่จะตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันพวกเขาต้องการให้โลกเห็นว่าพวกเขากำลังดำเนินการตามข้อเรียกร้องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยที่มีสหรัฐฯคอยให้การสนับสนุนเท่าที่จำเป็น
ที่มา: CNBC