· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังประเด็นการค้าละผลกระทบจากข่าวการลาออกจากตำแหน่งของนายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.49% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทรงตัว
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯที่ดีขึ้นจึงช่วยการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลดลงหลังจากนายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯที่ขยายตัวขึ้น โดยดัชนี Nikkei เพิ่มสูงขึ้น 1.2% ที่บริเวณ 22,052.18 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะที่หุ้นบริษัท Eisai Co ปรับตัวสูงขึ้น 16% แตะระดับสูงสุดที่ 10,710 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตยาญี่ปุ่นและบริษัทไบโอเจนอิงค์ (Biogen Inc)กล่าวว่าการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายของการทดลองในระยะกลางของยา Alzheimer แสดงให้เห็นถึงผลดีสำหรับผู้ป่วย
· ตลาดหุ้นจีนปิดบวก ท่ามกลางเงินหยวนที่รีบาวน์แข็งค่าขึ้น แม้จะยังมีความกังวลเกี่ยวกัลความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอยู่หลังจากที่นโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯมีผลบังคับใช้เมื่อวันศุกรที่ผ่านมา และทางการจีนก็ได้ประกาศใช้มาตรการตอบโต้ก็ตาม
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด +2.5% ซึ่งเป็นการปิดตลาดรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2016