• ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และอาจเห็นราคาทองคำกลับลงมาทดสอบระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนอีกครั้ง หลังจากที่ล้มเหลวในการBreak ฝ่าจุดสูงสุดเดิมในคืนวันศุกร์ โดยราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวกลับมาแถว 1,253 เหรียญ หลังจากที่คืนวันศุกร์ไปทำ High บริเวณ 1,265.87 เหรียญ สำหรับสัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิดลดลง 0.5% ที่ระดับ 1,253.7 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ทองคำถูกแรงเทขายต่อกลับลงหลุด 1,250 เหรียญในตลาดเอเชีย
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการขายทองคำออก 1.75 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 799.02 ตัน
• นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Comemerzbank กล่าวว่า หากค่าเงินดอลลาร์ยังคงมีทิศทางที่แข็งค่าต่อเนื่องก็มีโอกาสเห็นราคาทองคำกลับลงทดสอบระดับ 1,240 เหรียญได้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้วและช่วงกลางเดือนธ.ค.
ขณะที่ภาพของทองคำกลับมาเป็นขาลงนับตั้งแต่ที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดบริเวณ 1,365.23 เหรียญเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน
• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่ากลับขึ้นมาบริเวณ 94.386 จุด หลังจากที่วันจันทร์ไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.
• ผู้จัดการจาก Heraus Metalsกล่าวว่า การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยที่บั่นทอนราคาทองคำ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอความคืบหน้าของ Trade War ระหว่าจีนและสหรัฐฯ หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเรียกเก็บภาษีนำเข้า 3.4 หมื่นล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี ประเด็นทางการเมืองระดับโลกยังมีอยู่ จากภาวะความไม่มั่นใจต่อกรณี Brexit ของอังกฤษหลังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนประกาศลาออกจากรัฐมนตรีของอังกฤษ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่าจีนอาจเป็นอุปสรรคต่อการให้เกาหลีเหนือทำการปลดอาวุธนิวเคลียร์
• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank มองว่า ทองคำจะสามารถฟื้นตัวได้ก็ต่อเมื่อเห็นกลุ่มนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำ รวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนกองทุน ETFs ด้วย และอาจต้องใช้เวลารอจนกว่าจะเห็นปริมาณความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น
• นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า เป็นการยากที่จะเห็นราคาทองคำกลับมาสดใสอีกครั้งจนกว่าราคาจะสามารถยืนเหนือ 1,284 เหรียญได้ โดยจากภาพทางเทคนิคทองคำก็ยังคงเป็นทิศทางขาลง แต่อาจเห็นแรงเทขายชะลอลงบ้าง และเป็นการยากที่จะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น เมื่อเฟดยังคงมีการพูดถึงเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ดูจะสนับสนุนแนวทางการคุมเข้มทางการเงินของเฟด
ทั้งนี้ ภาวะ Trade War ก็อาจช่วยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาวได้ แต่ก็อาจไม่มีผลกระทบใดๆเลยหากภาวะดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจก็ดูจะเบาบาง โดยในคืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และวันพรุ่งนี้มีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ดูจะส่งผลกับราคาทองคำไม่มากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้กับกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นของเงินเฟ้อปีนี้
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.3% ที่ระดับ 16.03 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.9% ที่ระดับ 839 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -1.6% ที่ระดับ 944.72 เหรียญ