• ราคาทองคำตลาดโลกลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 8 วันทำการบริเวณ 1,242.55 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิดลดลง 11 เหรียญ คิดเป็น -0.9% ที่ระดับ 1,244.4 เหรียญ
• ราคาทองคำปรับตัวลดลง ท่ามกลางท่าทีคุกคามทางภาษีของสหรัฐฯที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มสู่ระดับ 2 แสนล้านเหรียญ แต่ตลาดกลับมีกระแสเงินในตลาดกลับไหลสู่ค่าเงินดอลลาร์ โดยตลาดมีความคาดหวังว่าในท้ายที่สุดสหรัฐฯจะตัดสินใจยอมถอยจากภาวะตึงเครียดเวลานี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับไปทำระดับสูงสุดรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินหยวนและออสเตรเลียดอลลาร์ แต่ไม่ได้ส่งผลให้ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวมากเท่าใดนัก
• ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในขณะนี้ถูกกดดันมาจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 799.02 ตัน
• นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวว่า แผนภาษีที่เกิดขึ้นเหมือนการเล่นชักกะเย่อกันระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาทองคำดูมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็ต้องดูเม็ดเงินจากตลาดในขณะนี้ควบคู่ไปด้วย
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับลงมาแถวระดับแนวรับสำคัญ 1,237 เหรียญซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมเมื่อ 3 ก.ค. หลังจากที่หลุด 1,247 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับแรกลงมา
• นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า Trade War ที่ดูจะมีความเสี่ยงมากขึ้นทำให้นักลงทุนมีการพากันปิดสถานะเพื่อทำกำไร และบ่อยครั้งทองคำมักจะได้รับอานิสงส์จากการเข้าถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ ณ ขณะนี้ดูเหมือนค่าเงินดอลลาร์จะมีความน่าสนใจมากกว่าทองคำในสายตาของนักลงทุนตอนนี้
• ข้อมูลจากสถาบัน ICI แสดงให้เห็นว่า บรรดานักลงทุนมีการถอนเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์โภคภัณฑ์ไปกว่า 1 พันล้านเหรียญ รวมถึงเงินลงทุนในโลหะมีค่า ซึ่งเป็นปริมาณการถอนเงินที่มากที่สุดในนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2017 ท่ามกลางความกังวลจาก Trade war ทำให้นักลงทุนพากันเข้าหาเงินดอลลาร์แทน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไม Trade war จึงไม่สามารถช่วยหนุนราคาทองคำได้
• ขณะที่รายงานจาก Thomson Reuters ชี้ว่าเพียงเดือนมิ.ย. เดือนเดียว บรรดากองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มโลหะมีค่ามีการถอนเงินไป 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นระดับการถอนเงินมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016
• หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทุนจาก GraniteShares Inc กล่าวว่า Trade War อาจช่วยหนุนเงินเฟ้อโดยการสร้างแรงกดดันให้กับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและนั่นจะส่งผลดีต่อราคาทองคำในระยะยาว แม้ว่าขณะนี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าก็ตาม
• ราคาซิลเวอร์ปิด -1.4% ที่ระดับ 15.82 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -1.4% ที่ระดับ 830.6 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.2% ที่ระดับ 939.5 เหรียญ