JP Morgan หนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุน เผยการปรับเพิ่มแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ แต่ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์โลกปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะทางการค้า
โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะมีราคาเฉลี่ยปีนี้สูงขึ้นที่ 70 เหรียญ/บาร์เรลในปี 2018 และปี 2019 โดยปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 65 เหรียญ/บาร์เรล และ 60 เหรียญ/บาร์เรลตามลำดับ หลังจากที่วันศุกร์ราคายืนอยู่แถว 74 เหรียญ/บาร์เรล
ทีมนักวิจัยจากธนาคารดังกล่าว เผยว่า ความไม่แน่นอนและการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตของ OPEC ข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายและผลกระทบจากการคว่ำบาตรอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นยังคงปรับตัวขึ้นได้
ขณะที่อุปสงค์น้ำมันปีนี้มีถูกปรับทบทวนแนวโน้มขยายตัวที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน สำหรับปี 2019 มีการปรับทบทวนแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นที่ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 1 ล้านบาร์เรล
ทางด้านภาวะอุปทานน้ำมันปีนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นระยะสั้นจาก พร้อมคาดว่าภาวะอุปทานน้ำมันของกลุ่ม OPEC ปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งกลุ่มสมาชิกนอกโอเปกจะมีอุปทานน้ำมันเพิ่มมาที่ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบรายปีในปีนี้ และที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลวันในปี 2017 โดยมีปัจจัยหลักมาจากสหรัฐฯ ควบคู่กับแคนาดา, รัสเซีย, คาซัคสถาน และบราซิล ท่ามกลางความผันผวนในตลาดปีนี้ที่น่าจะยังดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันจะได้รับความผันผวนและเคลื่อนไหวในกรอบกว้างระหว่าง 50 – 80 เหรียญ/บาร์เรล และมีโอกาสปรับตัวลดลงในระยะกลาง ขณะที่ความแตกต่างของราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI จะมีความถ่างกันค่อนข้างกว้าง
ที่มา: Euronews