.png)
• ดัชนี E-mini S&P 500 ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาในแดนบวก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับ Trade war ที่ผ่อนคลายลงไปในกลุ่มนักลงทุน โดยปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะจับตาในสัปดาห์นี้คือ การรายงายผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หากดัชนีสามารถเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2793.00 จุด และมีแรงหนุนขาขึ้นที่มากพอ ดัชนีจะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 2814.00 จุด หากผ่านไปได้ ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 2841.00 จุด และ 2889.00 จุด
อย่างไรก็ตาม หากดัชนีเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2789.25 จุด ก็จะเป็นการส่งสัญญาณขาย ซึ่งอาจทำให้ดัชนีปรับร่วงลงไปถึงระดับ 2755.25 จุด ตามมาโดยระดับ 2713.25 จุด และ 2693.25 จุดตามลำดับ
• ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัว ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการและการประชุมกันระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ทรงตัวในวันนี้ ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกัน
· ตลาดหุนเอเชียปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่สอง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 0.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินเยนและหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ผลประกอบการในไตรมาสที่สามปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei เพิ่ม 1.9% ที่ระดับ 22,597.35 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลเลง หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองชะลอตัวลง โดยประเด็นทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ทั้งนี้ ดัชนีShanghai Composite ร่วงลง 0.6% ท่ะรดับ 2,814.04 จุด
.png)
.png)
Thai
Eng