· นักวิเคราะห์จาก Westpac Banking Corporation มีมุมมองว่า ไฮไลท์สำคัญสำหรับวันนี้คือ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Retail Sales หรือยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาอ่อนตัว และน่าจะมีผลต่อรายงานประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศผลในวันที่ 27 ก.ค.นี้
และคืนนี้ต้องติดตามรายงานผลสำรวจภาคการผลิตจากเฟดสาขานิวยอร์ก ประจำเดือนก.ค. ด้วย เพราะอาจยังสะท้อนถึงภาวการณ์ขยายตัวที่แข็งแกร่งอย่างมาก
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะพบกันภายในวันนี้โดยตรงเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการสื่อสารเพียงแค่ผ่านทางโทรศัพท์มาโดยตลอดเท่านั้น นับตั้งแต่นายทรัมป์รับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2017
โดยประเด็นที่ทั้ง 2 ผู้นำน่าจะเจรจากันเป็นหลัก คือการเยียวยาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศที่เกิดข้อบาดหมางขึ้นจากการเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯโดยรัสเซีย และอาจรวมประเด็นอื่นๆอย่างการร่วมมือควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ และความขัดแย้งภายในประเทศซีเรีย
· นายเควิน แบรดดี้ ประธานคณะกรรมาธิการสำนักงบประมาณแห่งสหรัฐฯ (House Ways and Means Committee) เรียกร้องให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เร่งจัดการประชุมร่วมกันโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ พร้อมกล่าวเตือนอีกว่า นโยบายภาษีจะเป็นการกดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
· รายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ ระบุว่า นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีแนวโน้มจะเรียกร้องนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ของซีเรีย และห้ามยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
· ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่ลดลงและลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง ขณะที่เหล่าเทรดเดอร์ให้ความสนใจไปยังอุปทานที่เพิ่มขึ้นในประเทศรัสเซียและกลุ่มผู้ผลิตอื่นๆ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.9% ที่ระดับ 74.67 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง 0.8% ที่ระดับ 70.43 เหรียญ/บาร์เรล
· JP Morgan หนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุน เผยการปรับเพิ่มแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ แต่ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์โลกปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะทางการค้า
โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะมีราคาเฉลี่ยปีนี้สูงขึ้นที่ 70 เหรียญ/บาร์เรลในปี 2018 และปี 2019 โดยปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 65 เหรียญ/บาร์เรล และ 60 เหรียญ/บาร์เรลตามลำดับ หลังจากที่วันศุกร์ราคายืนอยู่แถว 74 เหรียญ/บาร์เรล