• ราคาทองคำทรงตัวท่ามกลางปริมาณความต้องการทองคำจากจีนและอินเดียที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ยังคงอ่อนแรง ขณะที่มีกระแสเฟดขึ้นดอกเบี้ย โดยราคาทองคำตลาดโลกปิดลดลง 0.2% ที่ระดับ 1,239.11 เหรียญ ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดปรับลง 1.5 เหรียญ คิดเป็น -0.1% ที่ระดับ 1,239.7 เหรียญ
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายทองคำออก 1.18 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 794.01 ตัน และโดยภาพรวม SPDR เทขายมาแล้วกว่า 8% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย. จึงสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนักลงทุนลดความสนใจในการถือครองทองคำ
• กรรมการผู้จัดการจาก RBC Wealth Management ระบุว่า ดูเหมือนช่วงไตรมาสที่ 2 จีนจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการกดดันราคาทองคำด้วยเช่นกัน ขณะที่รายงานจีดีพีจีนไตรมาสที่ 2 ประกาศออกมาชะลอตัว ท่ามกลางภาวะการจำกัดระดับหนี้ที่กระทบต่อกิจกรรมธุรกิจในประเทศ ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย. ออกมาอ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี
• ปริมาณนำเข้าทองคำอินเดียปรับตัวลงในรอบ 6 เดือนสู่ระดับ 44 ตันในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินรูปีที่ส่งผลให้ราคาทองคำในอินเดียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 21 เดือน และส่งผลกดดันต่ออุปสงค์ทองคำ
• นักวิเคราะห์จาก Citi Group กล่าวว่า การอุปโภคทองคำของจีนและอินเดียได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของค่าเงินภายในประเทศ แต่นักลงทุนอาจเข้าถือครองทองคำอีกครั้ง โดยเฉพาะหากประเด็นความขัดแย้งทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้นและกลายมาเป็นการสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งตลาดหุ้นที่เคลื่อนไหวในเชิงบวกด้วย
• ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ปรับอ่อนค่าลง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ลดการถือครองสถานะ Long ในตลาดและมีการปรับสถานะการลงทุนให้สมดุลก่อนทราบถ้อยแถลงของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่จะมีการกล่าวรายงานการดำเนินนโยบายต่อสภาคองเกรสในคืนนี้เป็นวันแรก โดยเขาถูกคาดหวังว่าจะมีการกล่าวย้ำถึงแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ระดับ 15.77 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.2% ที่ระดับ 824.1 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -2.2% ที่ระดับ 916.47 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 9 เม.ย. ที่ 914.75 เหรียญ