• ดัชนี S&P500 เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways โดยมีระดับ 2,800 จุดเป็นแนวรับขณะนี้ ซึ่งยังหากยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเห็นราคาปรับขึ้นต่อ หรืออาจปรับขึ้นไปแถว 2,880 จุดได้ ขณะที่แนวรับสำคัญของดัชนี S&P500 จะอยู่ที่ 2,790 จุด
ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการที่สดใสดูจะเป็นปัจจัยบวกที่ผลักดันให้ดัชนี S&P500 ปรับขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และมีโอกาสเห็นดัชนีปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยระยะยาวมีเป้าหมายที่ 3,000 จุด
อย่างไรก็ดี หากดัชนี Break หลุดต่ำกว่า 2,790 จุด ก็มีโอกาสเห็นดัชนีปรับลงมาแถว 2,770 จุด ซึ่งดูเหมือนเป็นระดับที่มีความต้องการรอช้อนซื้ออยู่ ดังนั้น ดัชนีจึงยังมีโอกาสเป็นขาขึ้น
• ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัว ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการบริษัทและเหตุการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลือ่นไหวในทิศทางแตกต่างกัน
• หุ้นเอเชียปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่หุ้นสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวาานี้ ท่ามกลางความกังวลที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างประเทศทำให้ตลาดหุ้นจีนและสกุลเงินหยวนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปี
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.1%
• ตลาดหุ้นญี่ป่นปรับตัวลดลง หลังจากที่ปรับขึ้นไปติดต่อกัน 4 วันทำการ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เทขายทำกำไร ขณะที่การร่วงลงของหุ้นการท่องเที่ยว จึงกดดันการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มน้ำมันและผู้ผลิตเครื่องจักร
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปรับตัวลง 0.1% ที่ระดับ 22,764.68 จุด ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากที่ปรับขึ้นไปที่บริเวณ 22,949.32 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลเลง โดยถูกกดดันจากหุ้นสายการบิน ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินหยวนที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากข่าวที่ว่าจีนวางแผนที่จะเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.5% ที่ะรดับ 2,772.55 จุด
• รมว.คลัง เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 61-62 รัฐบาลจะยังใช้นโยบายขาดดุลงบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท/ปี ซึ่งรัฐเน้นการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะดูแลภาระหนี้ด้วย