นายโพเวลล์เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังคงทิศทางขยายตัวได้ต่อไปอีกหลายปี แต่ได้เตือนว่าเฟดกำลังจับตาความเสี่ยงจากภาวะความขัดแย้งทางการค้าอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 95.021 จุด หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 95.407 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปรับอ่อนค่าลงมา 0.2% ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบวันที่ 1.1602 ดอลลาร์/ยูโร
ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน อ่อนค่าลง 0.15% บริเวณ 112.685 เยน/ดอลลาร์
• ค่าเงินยูโรไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1.1665 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรายวัน และปรับร่วลงมาใกล้แนวรับ 1.1640 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน
ขณะที่ภาพรวมทางเทคนิคยังคงเป็นทิศทางขาลง เนื่องจากค่าเงินเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน จึงมีแนวโน้มที่ค่าเงินพยายามจะลงมาทดสอบระดับ 1.1600 อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่แนวต้านรายวันจะอยู่ที่ระดับ 1.1672 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรายวัน โดยค่าเงินต้องแนวต้านนี้ไปให้ได้ก่อน ถึงจะกลับขึ้นไปทดสอบแนว 1.1700 ได้
• กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เตือน ความตึงเครียดเกี่ยวกับ Trade war ที่ขยายตัวขึ้น หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากนานาประเทศ อาจสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกเป็นมูลค่ารวมกว่า 4.30 แสนล้านเหรียญ ภายในปี 2020 หรือคิดเป็น 0.5% ของยอด GDP ทั่วโลก
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อาจมีร่างสนธิสัญญาทางการค้าร่วมกับเม็กซิโกแยกออกมาจากสนธิสัญญา NAFTA โดยเฉพาะ และจะมีการร่างสัญญาการค้าร่วมกับแคนาดาตามมาภายหลัง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสนธิสัญญา NAFTA
• บรรดาตัวแทนภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศกลุ่ม G20 ได้เรียกร้องให้ การประชุมของกลุ่ม G20 ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ร่วมมือกันต่อต้านโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสนับสนุนการค้าเสรีเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำทางด้านการเงินของกลุ่มประเทศ G20 กำลังจะมีการประชุมขึ้นภายในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ณ นครปกครองตนเองบัวโนสไอเรส ภายในประเทศอาร์เจนตินา
• รายงานจาก Reuters ระบุว่า สหภาพยุโรปอาจพิจาณาออกนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้ากลุ่มถ่านหิน ยาทางการแพทย์ และสารเคมีจากสหรัฐฯ หากทางสหรัฐฯทำการขึ้นภาษีรถยนต์ของยุโรปจริง
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯและปริมาณการผลิตสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 72.69 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.1% ที่บริเวณ 68.69 เหรียญ/บาร์เรล
• ราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้นเหนือระดับ 69.00 เหรียญ/บาร์เรล ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ยังสะสมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นสัญญาณว่าปริมาณอุปสงค์ในน้ำมันยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง
WTI Levels to watch
ราคาน้ำมัน WTI ได้ร่วงลงมาจากระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 75.35 และลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 67.25 และในช่วงปลายตลาดเมื่อคืนราคาสามารถปรับขึ้นเหนือระดับ 69.00 ท่ามกลางปริมาณนำเข้าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาปรับลงมาได้ โดยที่มีแนวรับสำคัญที่ 63.50 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน มิ.ย.