• ดัชนี S&P500 เผชิญกับภาวะ Pull back เล็กน้อยในช่วงการซื้อขายวานนี้ แต่ก็เพียงพอจะทำให้ดัชนีกลับมาเคลื่อนไหวแถว 2,800 จุด
อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดยังดูเป็นทิศทางขาขึ้นค่อนข้างมาก และเชื่อว่าจะสามารถทรงตัวแถว 2,825 จุด จนกว่าจะจะเกิดการ Break เหนือระดับดังกล่าว และจะทำให้ภาพกลับเป็น Upside อีกครั้ง โดยในระยะสั้นๆอาจเห็นถึงความผันผวนและตลาดมีการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways
สำหรับแนวรับของดัชนี S&P500 จะอยู่บริเวณ 2,775 จุดในกราฟรายวัน ขณะที่ระยะยาวมองว่ามีโอกาสเห็นดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเหนือ 2,880 จุด และจากนั้นจะขึ้นไปที่ 2,900 จุด และ 3,000 จุดตามลำดับ
• ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับนโยบายของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.2% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น โดยหุ้นจีนปิดแดนบวกหลังจากที่ช่วงต้นตลาดปรับตัวลง ขณะที่เงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดของปีนี้ หลังธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางของสกุลเงินหยวนในทิศทางอ่อนค่ามาอย่างต่อเนื่อง 7 วันทำการ จึงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นความกังวลในตลาดเอเชีย
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่นปิดปรับขึ้น 0.55% หลังจากที่ช่วงต้นตลาดปรับลงไป 0.4%
ค่าเงินหยวนล่าสุดยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่าจากกรณีสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งข้อมูลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยจะเห็นได้จากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงไปกว่า 7.6% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ นับตั้งแต่ช่วงสิ้นไตรมาสที่ 1/2018
นักวิเคราะห์จาก Bank of America Merrill Lynch ประจำกรุงโตเกียว ระบุว่า ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมไปถึงความท้าทายในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจของเอเชียประเทศอื่นๆด้วย
ตลาดหุ้นเอเชียรีบาวน์กลับหลังจากที่ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น หลังจากที่อ่อนค่าจากกรณีที่ธนาคารกลางจีนมีแรงขายดอลลาร์ออกมา
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินหยวนจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯมีเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.29% ที่ระดับ 22,697.88 จุด
• รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. 2561 เพื่อหารือกับผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ รวมทั้งภาคเอกชนสหรัฐฯ เร่งสานต่อความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุน ในสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าโลกในปัจจุบัน และมุ่งเจรจาลดอุปสรรคและมาตรการการค้าสหรัฐฯ
• กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือน มิ.ย.61 ระบุว่า การส่งออกมีมูลค่า 21,779 ล้านเหรียญ ขยายตัว 8.19% จากที่ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 9.5%
ทั้งนี้การนำเข้า มีมูลค่า 20,201 ล้านเหรียญ ขยายตัว 10.83% ส่งผลให้ดุลการค้าประจำเดือนมิ.ย. เกินดุล 1,578 ล้านเหรียญ
สำหรับการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.61) มีมูลค่า 125,811 ล้านเหรียญ ขยายตัวที่ระดับ 10.95% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 122,356 ล้านเหรียญ ขยายตัวที่ระดับ 15.61% ส่งผลให้ดุลการค้า 6 เดือนแรก ปี 61 เกินดุล 3,455 ล้านเหรียญ