• ดัชนีดาวโจนส์ปิดลง 144.23 จุด คิดเป็น -0.57% ที่ระดับ 25,306.83 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 16.22 จุด คิดเป็น -0.58% ที่ระดับ 2,802.6 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 107.42 จุด คิดเป็น -1.39% ที่ระดับ 7,630 จุด
ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดปรับตัวลงเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร ก่อนที่จะทราบผลประชุมของบรรดาธนาคารกลางส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้
• หุ้นยุโรปปิดอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลง ตามผลประกอบการบริษัทฯที่น่าผิดหวัง จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนในตลาด
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนตัว ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างรอคอยการตัดสินใจของบีโอเจในการประชุมวันนี้ โดยเช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.45% ขณะที่หุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.17%
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เงินบาทสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-33.60 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมเฟด ตลอดจนความคืบหน้าของประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้า ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และการจ้างงานภาคเอกชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือนมิ.ย. และดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่สัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางอังกฤษ ตลอดจนดัชนี PMI ของประเทศชั้นนำอื่น ๆ