• ค่าเงินดอลลาร์เมื่อคืนนี้ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีมุมมองความเป็นไปได้ที่บีโอเจจะประกาศเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินจากท่าทีผ่อนคลายเป็นใช้มาตรการที่คุมเข้มมากขึ้นในการประกาศผลการประชุมวันนี้
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมาเล็กน้อยประมาณ 0.05% ที่ระดับ 110.98 เยน/ดอลลาร์
ทั้งนี้ บีโอเจจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีทิศทางที่ชัดเจนเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยและการเลือกซื้อหุ้น
• กรรมการผู้จัดการจาก Jefferies กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้น แม้เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจเห็นค่าเงินเยนตอบรับในทิศทางแข็งค่าในสภาวะ Knee-Jerk ได้ และนั่นจะทำให้เราเห็นการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
• ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ 0.46% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยล่าสุดอยู่ที่ 1.1707 ดอลลาร์/ยูโร โดยจะเห็นได้ว่าค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นมาก่อนจะอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่อีซีบียังคงยืนยันที่จะคงดอกเบี้ยไว้จนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ขณะที่การรีบาวน์ของค่าเงินยูโรที่เกิดขึ้น นักวิเคราะห์ มองว่า มาจากการที่เหล่าเทรดเดอร์ตอบรับกับภาวะ Oversold ในสัปดาห์ที่แล้ว
ภาพรวมของเงินเฟ้อเยอรมนีและสเปนยังคงขยายตัวได้เกินเป้าหมายที่อีซีบีกำหนด และนี่อาจเป็นปัจจัยหนุนให้อีซีบีระมัดระวังต่อการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.38% ที่ระดับ 94.316 จุด ก่อนทราบข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯและผลประชุมเฟดสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนในตลาดการเงินไม่ได้ให้ความสนใจแค่เรื่องการประชุมเฟดเท่านั้น แต่ยังรอคอยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯด้วยเช่นกัน
• การประชุมอีซีบีในสัปดาห์ที่ผ่านมา สรุปได้ว่า ภาพรวมเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่อีซีบีกำหนด แต่อีซีบีก็มีการตัดสินใจจะสิ้นสุดการเข้าซื้อพันธบัตรในปีนี้ และมีแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2019 ซึ่งแนวโน้มการขยายตัวในช่วง 5 ปี จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ดัชนีราคาปรับตัวขึ้น แม้ว่าอีซีบีจะมีความกังวลต่อภาวะ Trade war ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้
ทั้งนี้ อีซีบีมองเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 1.7% ในปีนี้ โดยปรับขึ้นจากประมาณการณ์ก่อนหน้าที่ 1.5% และปีหน้าก็มองว่าจะขยายตัวได้ 1.7% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 1.6% เช่นกัน
ขณะที่ผลสำรวจการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีซีบีปรับลดลงจาก 2.4% สู่ระดับ 2.2% ในปีนี้ และปีหน้าปรับลงจาก 2% สู่ระดับ 1.9% โดยที่ระยาวยังคงมองว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวได้ 1.6% ตามคาดการณ์เดิม
• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นับตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาจะเห็นได้ถึงความผสมผสานกัน โดยข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ออกมาแย่กว่าที่คาดที่ระดับ 1.0% แต่ดีขึ้นจากเดิมในเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ -0.4% ขณะที่ข้อมูลสำคัญในคืนวันศุกร์ ได้แก่ ประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2/2018 ออกมาแย่กว่าที่คาดเล็กน้อยที่ 4.1% แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014
และสำหรับเมื่อคืนนี้ ยอดการขออนุมัติก่อสร้างบ้านเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นเกินคาด 0.9% ที่ระดับ 106.9 จุด หลังจากที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง 2 เดือนก่อนหน้า แต่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยยังคงผันผวนจากการขาดแคลนที่ดินเพื่อปลูกสร้าง
• รายงานจากกลุ่มภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ชี้ว่า การปราศจากข้อตกลง Brexit ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษ เนื่องจากจะเพิ่มค่าใช้จ่ายและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มผู้บริโภค
• แคนาดา, อียู, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และเกาหลีใต้ มีกำหนดการประชุมร่วมกัน ณ กรุงเจเนวา ในสัปดาห์ เพื่อหารือถึงแนวทางการตอบโต้ภัยคุกคามจากนายทรัมป์ ที่มีความตั้งใจจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในกลุ่มยานยนต์ รวมถึงอะไหล่ยนต์
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข่มขู่จะ Shut down รัฐบาล หากรัฐสภาไม่ยอมตอบรับต่อข้อเรียกร้องเกี่ยวกับนโยบายการอพยพและหัวข้ออื่นๆ แต่ได้ส่งสัญญาณว่าเขายังยินดีที่จะเจรจากับสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
• ทั้งนี้ ทางรัฐสภาจำเป็นต้องผ่านร่างงบประมาณให้ทันก่อนสิ้นเดือน ก.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shut down แต่ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพของนายทรัมป์ รวมถึงปัญหางบประมาณในการก่อสร้างกำแพงชายแดนระหว่างเม็กซิโกเป็นจำนวนเงิน 2.5 หมื่นล้านเหรียญ
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวแสดงความตั้งใจที่จะหารือกับผู้นำอิหร่านโดยปราศจากเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนการเจรจาใดๆทั้งสิ้นเพื่อให้มีทิศทางความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯตัดสินใจถอนตัวจากข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์อิหร่านฉบับปี 2015 ซึ่งหากอิหร่านต้องการหารือ เขาก็พร้อมที่จะหารือ
• รายงานจาก Reuters ระบุว่า ภาพถ่ายทางดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวในสถานที่พัฒนาขีปนาวุธที่สามารถยิงได้ไกลถึงสหรัฐฯ โดยภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่ามีรถยนต์เคลื่อนไหวเข้าและออกจากสถานที่ดังกล่าว แต่ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับขีปนาวุธแต่อย่างใด
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับภาวะอุปทานน้ำมัน และความเป็นไปได้ที่ปริมาณผลผลิตน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนต.ค. ที่มีสภาพคล่องในตลาดมากที่สุดปิดปรับขึ้น 79 เซนต์ ที่ระดับ 75.55 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาส่งมอบเดือนก.ย. ที่จะหมดอายุในวันนี้ปิดปรับขึ้น 68 เซนต์ที่ 74.97 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็น +0.9%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.44 เหรียญ คิดเป็น +2.1% ที่ระดับ 70.13 เหรียญ/บาร์เรล