MTS Help Center

• ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงช่วงตลาด Electronic เมื่อคืนนี้ แต่ราคาก็มีแรงซื้อกลับแถว 2,812 จุดได้ และนี่ก็ยังน่าเป็นจุดที่น่าสนใจของตลาดอยู่ โดยจะเห็นได้ว่า เมื่อดัชนีรีบาวน์จากแถวระดับ 2,812 จุดได้ ดัชนีก็ทะยานต่อมาที่ 2,821 จุด ซึ่งหากดัชนี Break เหนือ 2,825 จุด ก็มีโอกาสสูงที่จะเห็นดัชนีปรับขึ้นต่อ และทั้งหมดนี้น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ตลาดน่าจะรอจนกว่าจะเห็นความชัดเจนของบรรดาธนาคารกลาง รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานภาครัฐบาลของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์นี้ เพื่อชี้วัดว่าเฟดจะทำอะไรต่อไป

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก FX Empire แนะนำให้ระวังความผันผวนจากกระแสเงินมากเกินไป โดยหากตลาดเห็นความชัดเจนก็มีโอกาสจะเห็นดัชนีปรับขึ้นต่อไปที่ 2,840 จุด และหากยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ก็มีโอกาสที่จะเห็นระดับ 2,850 จุด

ในทางกลับกันหากดัชนี Break หลุด 2,800 จุดลงมา มีโอกาสกลับลงมาที่ 2,790 จุดและนี่อาจเป็นสัญญาณอันตราย เพราะมีโอกาสเห็นราคาร่วงลงไปกว่า 50 จุด

• ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ก่อนหน้าการประชุมบีโออีที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเรื่อง Brexit ก็ตาม

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.5% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางลบ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯมีแผนจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 25% คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ โดยเป็นการปรับเพิ่มจากครั้งที่แล้ว 10%

• ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในวันนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางค้าประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีน ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นเร็วเกินไป

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 1.5%

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงหลังจากที่ปรับขึ้นไปใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ช่วงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงหลังจากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 1.03% ที่ระดับ 22,512.53 จุด

• ตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านเหรียญ

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 2% ปิดที่ระดับ 2,824.53 จุด

• นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ในเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ พิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - ญี่ปุ่น ระยะ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.7 แสนล้านบาท เฉพาะในส่วนงานก่อสร้าง แต่งานการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ จะนำเสนอในรอบถัดไป

• NPPG กางแผน5ปี ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ตปท.เป็น 70% เล็งขยายธุรกิจอาหารแตะ 5 พันสาขา พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยอยู่ระหว่างหาพันธมิตรมาถือหุ้นธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง คาดชัดเจนปลายปีนี้

• สภาผู้ส่งออกทางเรือฯ คาดการณ์ส่งออกทั้งปีโต 8-9% เผยการส่งออก 6 เดือนแรกของปีขยายตัว 10.5% พร้อมระบุห่วงสงครามการค้าสหรัฐกับจีนเป็นปัจจัยลบกระทบส่งออก แนะเร่งเจรจาเสรีการค้าหลายเวที

• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ในที่ประชุมได้รายงานว่า ในปีนี้ ยังคงคาดการณ์การท่องเที่ยวจะสร้างรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท และจากไทยเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ จีน รัสเซีย และมาเลเซีย ส่วนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวเพียง 4% เนื่องจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนและยุโรป