• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2561

    6 สิงหาคม 2561 | Economic News

·       ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวท่ามกลางกระแสคาดการณ์ของเหล่านักลงทุนที่คาดว่าเฟดจะสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยได้แบบค่อยเป็นค่อยไปดังเดิมภายปีนี้ โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 95.259 จุด ใกล้ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปีที่ 95.652 จุด ที่ขึ้นไปได้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน หลังธนาคารกลางจีนกำหนดความต้องการค่าเงินหยวนคิดเป็น 20% จาก 0% ตั้งแต่วันจันทร์นี้ ส่งผลให้ค่าเงินหยวนในช่วงบ่ายแข็งค่าขึ้น 0.14% บริเวณ 6.8400 หยวน/ดอลลาร์

นักวิเคราะห์จาก State Street Bank ประเมินว่า ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะได้รับผลกระทบจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานเมื่อคืนวันศุกร์ที่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ แต่ทิศทางแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็ยังแข็งแกร่ง และคาดว่าจะดำเนินต่อไปได้อีก

ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงบริเวณ 1.1563 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับต่ำสุดรายวันที่ 1.1557 ดอลลาร์/ยูโร และยังใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 28 ก.ค. ที่ 1.15275 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนอ่อนค่า 0.1% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ที่บริเวณ 111.34 เยน/ดอลลาร์

·       มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ทางพรรคเดโมแครตแห่งสหรัฐฯจะกลับมาครอบครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นในสภาผู้แทนราษฎรหรือทางวุฒิสภา หลังการเลือกตั้งกลางวาระที่จะเกิดขึ้นเดือน พ.ย. นี้

กระแสคาดการณ์ดังกล่าวจึงสนับสนุนให้บรรดานักลงทุนในตลาดสหรัฐฯเริ่มหันมาถือครองเงินสดมากขึ้น และลดความสนใจในภาคการเงินหรือเทคโนโลยีลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่ภาคธุรกิจเหล่านี้อาจโดนมาตรการใหม่เข้ามาควบคุมหลังการเลือกตั้งกลางวาระ

·       นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าในปัจจุบัน โดยตำหนิบรรดาประเทศพันธมิตรว่า บรรดาประเทศพันธมิตรที่ออกมาต่อต้านการขึ้นภาษีของสหรัฐฯและอ้างถึงความสำคัญของการค้าเสรี แต่ประเทศเหล่านั้นก็ยังคงไม่มีการปรับลดภาษีนำเข้าให้เหลือ 0นั่นเพราะว่าพวกเขาเองก็เป็นประเทศที่กีดกันทางการค้าและต้องการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศตนเองเช่นเดียวกัน

·       หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์แห่ง IMF ระบุว่าความลังเลที่จะลดยอดขาดดุลทางการค้าของเยอรมนี เป็นปัจจัยที่กดดันให้ความขัดแย้งทางการค้าเลวร้ายลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความความมั่นงคงของระบบการเงินทั่วโลกได้

ทั้งนี้ ทาง IMF และสหภาพยุโรปได้พยายามเรียกร้องให้เยอรมนีทำการกระตุ้นปริมาณอุปสงค์ภายในประเทศด้วยการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างและการลงทุน เพื่อช่วบลดความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เองก็เคยกล่าวตำหนิการส่งออกของเยอรมนีมานับตั้งแต่รับตำแหน่ง

·       สำนักสิถิติแห่งเยอรมนีเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย. ปรับลดลงมากกว่าที่คาดถึง -4.0% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบปีครึ่ง หลังจากที่ขยายตัวได้ 2.6% ในเดือนก่อนหน้า จึงคาดว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะลอกำลังการผลิตลงในช่วงเดือนต่อๆไป

·       สำนักข่าวแห่งเกาหลีเหนือได้เรียกร้องให้สหรัฐฯยกเลิกการคว่ำบาตรพวกเขา โดยอ้างว่าเกาหลีเหนือได้แสดงออกถึงเจตนาอันดีด้วยการยกเลิกพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการส่งคืนร่างของทหารที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีกลับประเทศอีกด้วย

โดยถ้อยแถลงของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานลับขององค์การสหประชาชาติ (U.N.) ที่ยืนยันว่าเกาหลีเหนือยังไม่ได้หยุดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และยังคงมีการละเมิดข้อตกลงของ U.N. เกี่ยวกับการซื้อขายน้ำมัน ถ่านหิน และสินค้าโภคภันฑ์อื่นๆอยู่ดังเดิม

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่การผลิตน้ำมันดิบประจำเดือนก.ค.ของซาอุดีอาระเบียปรับตัวลงอย่างมาก และเครื่องเจาะน้ำมันจากชั้นหินของสหรัฐฯหลายแห่งได้รับผลประกอบการที่น่าผิดหวังในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบจากต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ,การป้องกันความเสี่ยง และการลดลงของราคาน้ำมันดิบระหว่างเดือนพ.ค.-ก.ค.ที่อยู่ห่างจากจุดสูงสุดในปี 2018

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 73.42 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI สูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 68.68 เหรียญ/บาร์เรล
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com