นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities ประเมินว่า การตอบรับของตลาดที่มีต่อประเด็น Trade war เริ่มส่งสัญญาณเบาบางลงไป และหากว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณของการชะลอตัวจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเมื่อเดือน ก.ค. ก็มีโอกาสที่ตลาดจะปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ด้านค่าเงินเยนทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์บริเวณ 111.38 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าเกือบ 0.2% ยริเวณ 1.16185 ดอลลาร์/ยูโร
ตัวแทนจากสหรัฐฯและญี่ปุ่นมีกำหนดการจะจัดการเจรจาเพื่อก่อตั้งสัญญาทางการค้าเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ภายในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้มีการเจรจาเบื้องต้นกันเอาไว้เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
• ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities ประเมินเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและญี่ปุ่น โดยระบุว่า หากสหรัฐฯกล่าวตำหนิระบบเศรษฐกิจหรือการเงินในประเทศญี่ปุ่นก็มีโอกาสที่จะทำให้เงินเยนแข็งค่าได้ ขณะที่การหาข้อตกลงร่วมกันในการเจรจาครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเป็นการเจรจาเพื่อร่างสัญญาทางการค้าครั้งแรกระหว่างสหรัฐฯและญี่ปุ่นภายใต้แผนการดำเนินงานใหม่
• ยอดส่งออกของจีนขยายตัวเกินคาดในเดือน ก.ค. แม้จะได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีชุดแรกจากสหรัฐฯที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ก็ตาม ขณะที่สหรัฐฯเตรียมประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าอีกครั้งภายในเดือนนี้ เพื่อกดดันให้จีนลดยอดเกิดดึลการค้าร่วมกับสหรัฐฯ
ทางด้านยอดเกินดุลการค้าของจีนกับสหรัฐฯก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดเกินดุลในเดือนที่ผ่านมาย่อตัวลงเล็กน้อยมาบริเวณ 2.809 หมื่นล้านเหรียญ จากเดิมในเดือน มิ.ย. ที่ 2.897 หมื่นล้านเหรียญ
• สำนักข่าว Global Times เตือน Apple อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในสงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐฯ เนื่องจาก Apple เป็นบริษัทที่มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในประเทศจีนเพื่อหาประโยชน์จากอัตราค่าแรงที่ต่ำและ Supply Chain ที่แข็งแกร่ง จึงอาจถูกเรียกร้องให้มีการมอบผลประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
ทั้งนี้ Apple มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 9.6 หมื่นล้านเหรียญในไตมาสที่ 2/2018 ส่งผลให้มูลค่ารวมของ Apple เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 1 ล้านล้านเหรียญเมื่อเร็วๆนี้
• นายอีลอน มัสก์ CEO บริษัท Tesla ส่งสัญญาณว่าเขาต้องนำ Tesla ออกจากตลาดหุ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงสร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ให้กับนักลงทุน โดยนายอีลอนให้เหตุผลว่า เพื่อให้บริษัทสามารถมุ่งมั่นกับการผลิตโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้นที่ผันผวนตลอดเวลา
• รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งอิตาลีเตรียมเปิดเผยว่า ในการลงมติร่างงบประมาณฉบับต่อไป จะมีการเปิดเผยถึงแผนปฏิรูประบบการเงินภายในประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจแห่งอิตาลียังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP อิตาลีในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.2% จากเดิมที่ 1.5% ขณะที่คาดว่า GDP จะเติบโตได้ 1-1.1% ในปี 2019
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากรายงานตัวเลขนำเข้าของจีนที่ค่อนข้างอ่อนแอ แม้ว่าตลาดยังคงได้รังแรงหนุนจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯและประเด็นการคว่ำบาตรอิหร่าน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 15 เซนต์ ที่ระดับ 74.50 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2 เซนต์ ที่บริเวณ 69.15 เหรียญ/บาร์เรล