ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับตัวลง 0.5% แถวระดับ 1,206 เหรียญ โดยราคาทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 1 ปี บริเวณ 1,204 เหรียญที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลง 5 สัปดาห์
สัญญาทองคำส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลง 0.5% แถวระดับ 1,213.4 เหรียญ
· หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดประจำที่ Think Markets.com กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ แม้ว่าจะมีภาวะตึงเครียดทางการเมืองยังเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้ภาพรวมของทองคำยังเป็นขาลง แม้จะมีการลงทุนระยะสั้นๆ
· ดอลลาร์พุ่งทำ High รอบ 13 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ภาพรวมค่าเงินยูโรและปอนด์อยู่ในทิศทางก่อนหน้า ขณะเดียวกันการคว่ำบาตรรัสเซียฉบับใหม่ของสหรัฐฯทำให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าทำระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี ทางด้านค่าเงินลีราของตุรกีทรุดลงทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากปัญหาทางการทูตกับสหรัฐฯที่ยังไม่สามารถพูดคุยกันได้
ทองคำถูกกดดันจากความไม่แน่นอน หลังจากที่ภาวะตึงเครียดทางการเมืองปีนี้ไม่สามารถหนุนทองได้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เลือกดอลลาร์มาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในปีนี้เป็นครั้งที่ 3
· นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Phillip Futures คาดว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาทองคำปรับตกลงต่อในเวลานี้
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ระบุว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,206 – 1,220 เหรียญ ซึ่งหาก Break ทางใดทางหนึ่งจะเห็นทิศทางที่ชัดเจน
· ราคาซิลเวอร์ปรับลงมา 0.6% ที่ระดับ 15.32 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปรับลง 0.4% ที่ระดับ 827.2 เหรียญ ขณะเดียวกัน ราคาพลาเดียมปรับลงเกือบ 1% ที่ระดับ 899.10 เหรียญ
· ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนยังคงอยู่ในทิศทางทรงตัวและอาจเห็นการปรับแข็งค่า เพราะหากปรับขึ้นได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นได้ตาม โดยประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ได้ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจากระดับช่วงปลายเดือนมี.ค. บริเวณ 6.25 หยวน/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 6.84 หยวน/ดอลลาร์ และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงตาม โดยค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อช่วงม.ค. ปี 2017 แถว 7.00 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งการอ่อนค่าดังกล่าวทำให้นายทรัมป์กล่าวตำหนิจีน เพราะดูเหมือนการอ่อนค่าที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่การอ่อนค่าดังกล่าวได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ามากขึ้น
· ราคาทองคำได้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเกือบทั้งสัปดาห์ โดยราคาได้ทำลักษณะสามเหลี่ยมในกราฟราย 1 ช.ม. และราคาก็กำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค จึงบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีโอกาส Breakout ในทิศทางขาขึ้นได้
นอกจากนี้ Indicators ต่างๆก็บ่งชี้ถึงสัญญาณของทิศทางขาขึ้นในระดับปานกลาง
· ราคาทองคำพยายามต่อสู้กับแนวรับสำคัญและแนวต้านเทรนด์ขาลงเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ปีนี้และมีแนวโน้มที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยกราฟรายวันแสดงแนวรับที่บริเวณ 1,205 เหรียญ ขณะที่แนวโน้มขาลงในรอบ 4 เดือนจะอยู่ที่บริเวณ 1,212 เหรียญ
ในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมาราคาทองคำยังคงถูกกดันและมีแนวโน้มที่จะ Break ในทิศทางขาขึ้นจากปัจจัยความเสียงทางเศรษฐกิจที่ช่วยหนุนการเข้าซื้อทองคำ ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยFibonacci retracement ที่อยู่ระดับ 1,215.4 เหรียญ ซึ่งเป็นบริเวณที่ราคาเคลื่อนไหวแบบผันผวนในกรอบแคบๆ
โดยราคาทองคำแนวโน้มขาขึ้นจะต้องปิดเหนือระดับ 1,215.4 เหรียญ ทั้งนี้เป้าหมายแรกในระยะสั้นของทิศทางขาขึ้น อยู่ที่บริเวณ 1,220.5 เหรียญซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยราย 20 วันขณะที่เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 1,236 เหรียญซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่แนวรับยังคงอยู่ที่ระดับ 1,205 เหรียญ ยังเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่