• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2561

    10 สิงหาคม 2561 | Economic News

·       ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าอย่างหนักจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับตัวลงท่ามกลางความตึงเครียดจากภาวะตึงเครียดทางการค้า และไม่น่าจะเจรจาทางการทูตกันได้


ขณะที่ค่าเงินยูโรถูกกดดันทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ ก.ค. ปี 2017 จากปอนด์ที่ร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบปีด้วย จากความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงด้านความสัมพันธ์ใดๆในอนาคต

ค่าเงินเยนร่วงลงไป  0.1% ที่ระดับ 110.98 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 11.165 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมดูเหมือนจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 110.68 – 111.53 เยน/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์พุ่งไป 96.103 จุด คิดเป็น +0.6%  โดยดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากภาวะตึงเครียดทางการค้าและความสัมพันธ์ทางการเมือง หลังจากที่สหรัฐฯประกาศค่ำบาตรรัสเซียฉบับใหม่ ขณะที่สหรัฐฯก็มีสัมพันธ์ทางการทูตที่ย่ำแย่มากขึ้นกับตุรกี

สำนักข่าว TASS State News Agency ของรัสเซีย เผยว่า นายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียกำลังตัดสินใจจะทำสงครามทางเศรษฐกิจ (Economic War) หากสหรัฐฯตัดสินใจแบนการทำธุรกรรมกับภาคธนาคารหรือค่าเงินของรัสเซีย

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อ 0.55% ไปที่ 6.855 หยวน/ดอลลาร์

·       ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 13 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยรายงานจาก Financial Times ระบุว่า ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของยูโรโซนกังวลต่อเศรษฐกิจของผู้ให้กู้รายใหญ่ของยูโรโซนหรือประเทศตุรกีนั่นเอง

โดยค่าเงินยูโรร่วงลงไป 0.6% แตะ 1.146 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 13 เดือน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 0.894

ดัชนีดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดยุโรป โดยได้รับอานิสงส์จากเงินยูโรอ่อนค่า จึงเห็นดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ก.ค. ปี 2017 โดยดัชนีดอลลาร์ปรับเป็น 95.988 จุด

·       เมื่อคืนนี้ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ (EUR/USD) สามารถแข็งค่าขึ้นได้บางส่วน แต่ไม่สามารถคงทิศทางแข็งค่าได้นานนักก่อนที่จะอ่อนค่ากลับลงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบปี

นักวิเคราะห์จาก FX Street ประเมินว่า หากค่าเงินยูโรวันนี้สามารถปิดเหนือระดับ $1.1630 ก็จะเป็นการลบล้างทิศทางขาลงในระยะสั้นไปได้ โดยเป้าหมายถัดไปจะเป็นแนวต้านสำคัญที่ระดับ $1.1700 ในทางกลับกัน หากค่าเงินปิดวันนี้ปิดต่ำกว่าระดับ $1.1530 ก็อาจทำให้ราคาอ่อนค่าลงต่อได้ถึงระดับ $1.1500/10 ที่เป็นแนวรับสำคัญที่รองรับการอ่อนค่าของค่าเงินได้ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการซื้อขายวันนี้จะค่อนข้างเบาบางในตลาดเอเชีย ท่ามกลางมุมมองว่าค่าเงินยูโรยังคงเป็นขาลง ตราบใดที่ราคายังคงทรงตัวต่ำกว่าบริเวณ $1.1580/1.1600 จึงมีแนวโน้มที่ค่าเงินอาจเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังบริเวณ $1.1550

·       สำหรับนักลงทุนให้ความสนใจไปยังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค. ในคืนนี้ ที่ดูมีแนวโน้มจะเห็นเงินเฟ้อขยายตัวได้ 0.2% หลังจากขยายตัวที่ 0.1% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อวานนี้ สหรัฐฯและญี่ปุ่นเปิดฉากเจรจาการค้าร่วมกันเพื่อให้เกิดความเสรี ยุติธรรม และผลตอบแทนซึ่งกันและกัน และมีการหารือกันต่อในวันนี้

·       ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนยังคงอยู่ในทิศทางทรงตัวและอาจเห็นการปรับแข็งค่า เพราะหากปรับขึ้นได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นได้ตาม โดยประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ได้ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจากระดับช่วงปลายเดือนมี.ค. บริเวณ 6.25 หยวน/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 6.84 หยวน/ดอลลาร์ และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงตาม โดยค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อช่วงม.ค. ปี 2017 แถว 7.00 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งการอ่อนค่าดังกล่าวทำให้นายทรัมป์กล่าวตำหนิจีน เพราะดูเหมือนการอ่อนค่าที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่การอ่อนค่าดังกล่าวได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ามากขึ้น

·       นายกรัฐมนตรีแห่งรัสเซียกล่าวเตือนสหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากกรณีต้องสงสัยว่ารัสเซียพยายามลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียด้วยอาวุธเคมี โดยกล่าวหาว่าสหรัฐฯได้ประกาศสงครามทางการค้าร่วมกับรัสเซีย

ขณะที่รายงานจาก CNBC ยังระบุว่า สหรัฐฯอาจมีการเตรียมการสำหรับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมรัสเซียต่ออีก หากมาตรการเหล่านั้นสามารถผ่านการลงมติในสภาคองเกรสมาได้ ซึ่งบรรดาผูเชี่ยวชาญเชื่อว่า มาตรการเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะถึงช่วงการเลือกตั้งกลางวาระ

·       นายเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวปลอบประโลมความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนค่าลงของค่าเงินลีราตุรกีแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณความขัดแย้งกับสหรัฐฯที่อาจเลวร้ายลง หลังตัวแทนของตุรกีที่เดินทางไปยังสหรัฐฯ เดินทางกลับประเทศมาโดยไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ค่าเงินลีราตุรกีถูกแรงเทขายลงมาอย่างหนักจากบรรดานักลงทุนที่กังวลต่ออำนาจในบริหารนโยบายการเงินของนายเออร์โดกัน ประกอบกับความขัดแย้งกับสหรัฐฯ

·       การเจรจาทางการค้าระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถทำความเข้าใจถึงจุดยืนของกันและกันได้ดียิ่งขึ้น แต่ญี่ปุ่นยังคงยึดมั่นในจุดยืนที่จะหลีกเลี่ยงการก่อตั้งสัญญาทางการค้าแบบทวิภาคี โดยญี่ปุ่นต้องการให้สัญญาทางการค้าเป็นแบบพหุภาคีมากกว่า

·       นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะสามารถครอบครองเสียงสนับสนุนข้างมากได้ในการเลือกตั้งรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. ซึ่งจะทำให้นายอาเบะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ครอบครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

·       ผลสำรวจโดย Reuters เชื่อว่ายอดส่งออกของญี่ปุ่นจะขยายตัวได้ด้วยอัตราทรงตัวในเดือน ก.ค. ถึงแม้จะมีความกังวลจากประเด็น Trade war กดดันอยู่ก็ตาม

ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค. ถูกคาดว่าจะขยายตัวได้ 6.3% จากปีก่อนหน้า หลังจากที่สามารถขยายตัวได้ 6.7% ในเดือน มิ.ย.

ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มจะขยายตัวได้ 14.4% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% ในเดือน มิ.ย. ท่ามกลางแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของเงินเยน

สำหรับยอดดุลการค้าญี่ปุ่น น่าจะมียอดขาดดุลอยู่ที่ระดับ 5 หมื่นล้านเยน (4.5102 ร้อยล้านเหรียญ) ในเดือน ก.ค.

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและปริมาณความต้องการเชื้อเพลิ่ง แม้ว่าประเด็นการคว่ำบาตรอิหร่านที่คาดว่าจะทำให้ภาวะอุปทานตึงตัวก็ตาม

ทั้งนี้  น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 71.88 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.3% เช่นเดียวกัน ที่บริเวณ 66.59 เหรียญ/บาร์เรล

โดยราคาปรับตัวลดลงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้

·       ราคาน้ำมัน WTI พยายามปรับตัวสูงขึ้นในช่วงตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังคงขาดแรงหนุนในขาขึ้นจึงไม่สามารถกลับตัวสูงขึ้นมาได้ ดังนั้น นักวิเคราะห์จาก FX Street จึงประเมินว่า โอกาสที่ราคาจะ Breakout หลุดแนวรับ $66.30 ลงมาจึงมีอยู่สูง และถ้าหากหลุดลงมาทิศทางขาลงก็จะมีเป้าหมายต่อไปที่ $65.71 ที่เป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 22 มิ.ย. จนถึงระดับ $65.00

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com