· เมื่อวานนี้สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า คณะตัวแทนจากจีนจะทำการเข้าเจรจากับสหรัฐฯในระหว่างวันที่ 22-23 ส.ค.นี้ และข่าวดังกล่าวได้ส่งผลให้ตลาดการเงินต่างๆ เกิดความคาดหวังว่าประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศ อาจยุติความตึงเครียดทางการค้าร่วมกันได้ก่อนที่แผนฉบับใหม่ของสหรัฐฯในการจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญจะมีผลบังคับใช้ ขณะที่จีนจะตอบโต้สหรัฐฯด้วยการเรียกเก็บมูลค่าเท่าๆกัน
· ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงและเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสูงสุดรอบ 13 เดือนครึ่ง ขณะที่ค่าเงินหยวนกลับมาแข็งค่าจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2017 จากข่าวที่จีนและสหรัฐฯจะทำการเจรจากันรอบใหม่ในเดือนนี้
ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงแตะระดับ 96.637 จุด หลังจากไปแตะระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่มิ.ย. ที่ 2017 บริเวณ 96.984 จุด
ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้นไปที่ 1.1% ที่ระดับ 6.8714 หยวน/ดอลลาร์ โดยกลับแข็งค่าลงมาจาก 6.9587 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 4 ม.ค. 2017
ค่าเงินลีราปรับแข็งค่ากลับลงมาต่อเนื่อง 3 วันทำการ 2.4% แตะระดับ 5.8101 ลีรา/ดอลลาร์ หลังรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่ดูสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันการดีดกลับของค่าเงินลีราได้ช่วยให้ค่าเงินของประเทศบราซิล, เม็กซิโก ปรับแข็งค่าขึ้นตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยหนุนให้ค่าเงินรูปีและแอฟริกาใต้ขยับมากนัก
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1.13575 ดอลลาร์/ยูโร โดยปรับแข็งค่าจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 13 เดือนที่ระดับ 1.13010 ดอลลาร์/ยูโร
· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีกำหนดการจะกล่าวถ้อยแถลงในวันที่ 24 ส.ค. นี้ ณ ที่ประชุมประจำปีของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง โดยนายโพเวลล์น่าจะกล่าวเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
· กลุ่มผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ให้คำมั่นจะทำการสนับสนุน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเพื่อให้แผนผ่านมติสภาคองเกรสเกี่ยวกับการควบคุมจำนวนเงินนับพันล้านเหรียญทางด้านงบประมาณการช่วยเหลือต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงกองทุนโครงการต่างๆในซีเรีย, West Bank และเขตฉนวนกาซา
· รายงานจากเพนตากอน ระบุว่า ทางการทหารของจีนมีการเพิ่มกำลังการดำเนินการเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และดูเหมืนจะมีการฝึกซ้อมการจู่โจมเพื่อไว้ตอบโต้สหรัฐฯและชาติพันธมิตร
· รายงานจากสถาบันวิจัยทางไซเบอร์แห่งสหรัฐฯ ได้ตรวจสอบพบแฮคเกอร์จากประเทศจีนที่ดำเนินการเจาะข้อมูลจากหน่วยงานของสหรัฐฯทั้งภาครัฐและเอกชน นับตั้งแต่เมื่อมีการเจรจาปัญหาทางการค้าระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนภายในปีนี้
· สหรัฐฯกล่าวเตือนตุรกีว่าอาจจะทำการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม เว้นแต่ว่าทางตุรกีจะปล่อยตัว นายแอนดรูว บรูสัน นักบวชชาวอเมริกัน ที่เป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ
· นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการหารือเกี่ยวกับสนธิสัญญาการควบคุมอาวุธ และการหารือกับซีเรียเกี่ยวกับการกระทำของอิหร่านในซีเรียในสัปดาห์หน้า
· รายงานจากกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า การเดินขบวนพาเหรดของทหารสหรัฐฯ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้จัดขึ้นในภายในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ถูกเลือกออกไปอย่างน้อยจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานว่าการเดินขบวนถูกเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลใด แต่คาดว่าน่าจะมีปัญหาส่วนหนึ่งมาจากด้านงบประมาณกว่า 90 ล้านเหรียญ
· รายงานความเชื่อมั่นทางธุรกิจและภาคการผลิตของญี่ปุ่นปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนส.ค. เพราะได้รับอานิสงส์จากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจโลก ขณะที่ภาคบริการแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 จึงอาจส่งผลกระทบต่อภาวะอุปสงค์ภายในประเทศญี่ปุ่นได้
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นท่ามกลางตลาดการเงินทั่วโลกที่ทรงตัว หลังจากที่วันก่อนถูกกดดันจากแนวโน้มการอ่อนตัวของอุปสงค์น้ำมัน โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ที่ระดับ 71.43 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 45 เซนต์ ที่ระดับ 65.46 เหรียญ/บาร์เรล