นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มภาคธุรกิจ กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายของทีมบริหารของนายทรัมป์ ตั้งแต่เรื่องการค้า ตลอดจนเรื่องกลุ่มผู้อพยพและงบประมาณ ขณะเดียวกันคาดการณ์ระยะสั้นเกี่ยวกับการสนับสนุนทางเศรษฐกิจจากแผนปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันดูจะลดบทบาทลงไป
The National Association for Business Economics เผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า 91% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า นโยบายการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในปัจจุบันจะส่งผลเสียต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ ขณะที่ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะได้รับผลเชิงลบหากสหรัฐฯเลือกออกจากข้อตกลง NAFTA
แผนการปรับลดภาษีที่มีผลบังตับใช้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 ดูเหมือนว่าจะมีคนกว่า 71% หรือเพิ่มขึ้นจาก 52% แสดงความเห็นด้วยที่นโยบายดังกล่าวจะช่วยเกื้อหนนุให้เศรษฐกิจขยายตัว
ทั้งนี้ ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อโอกาสการใช้ทวีตเตอร์ของนายทรัมป์ หลังจากที่ล่าสุด แสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นขยายตัวได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา จากอัตราว่างงานที่ปรับตัวลดลง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และอัตราว่างงาน
สำหรับภาพรวม 37% ของผู้ตอบแบบสอบถามบางส่วนนั้น มองว่า แผนปรบลดภาษีของสหรัฐฯจะช่วยหนุนจีดีพีสหรัฐฯได้ในปี 2018 โดยอาจเห็นการปรับข้น 0.25%ของจีดีพี
“เฟด” ประเด็นเด่น
คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจของเฟดดูจะมีมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 76% มองว่าเฟดดำเนินนโยบายมาถูกทาง ขณะที่ 19% มองว่า การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของเฟดในปัจจุบันเป็นลักษณะ “กระตุ้นมากเกินไป” ขณะที่ 4% มองว่าธนาคารกลางมีท่าทีที่จำกัดมากเกินไป
อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าเฟดจะสามารถบรรลุถึงเป้าหมายเงินเฟ้อปัจจุบันที่ 0.2% ได้
ที่มา: Bloomberg