ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ 0.1% ที่ระดับ 1,185.31 เหรียญ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วลงไปทำ Low นับตั้งแต่ม.ค. ปี 2017 บริเวณ 1,159.96 เหรียญ
ภาพรวมราคาทองคำร่วงลงกว่า 2.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นรายสัปดาห์ที่่ราคาร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ธ.ค. และส่งผลให้เป็นความต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ที่ราคาปรับตัวลดลง
สัญญาทองคำ Gold Futures ปรับขึ้น 0.7% ที่ระดับ 1,191.6 เหรียญ
• รองประธานฝ่ายวิเคราะห์โลหะมีค่า, พลังงาน และค่าเงิน จาก Religare Securities กล่าวว่า ภาพรวมแนวโน้มการลงทุนในทองคำยังคงเป็นขาลง โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่ใดๆเข้ามาเกื้อหนุนตลาดในขณะนี้ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อที่อยู่ในแดน Oversold มากกว่า จึงเป็นสาเหตุที่กดดันราคาทองคำ
เส้น RSI ราย 14 วันของทองคำทรงตัวที่ 31.977 จุด หลังจากลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 21.187 จุดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยค่าที่อยู่ต่ำกว่า 30 จุด ยังบ่งชี้ถึงภาวะOversold ที่อาจบ่งชี้ถึงสภาวะการเคลื่อนไหวของทองคำในขณะนี้
• ราคาทองคำร่วงลงไปกว่า 13% เมื่อนับจากระดับสุงสุดเมื่อเดือนเม.ย. ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาณ์ ที่ทำให้ราคาทองคำถูกลดความน่าสนใจลง
ขณะเดียวกันนักลงทุนเข้าถือครองค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางข้อขัดแย้งทางการค้า ประกอบกับวิกฤตค่าเงินในตุรกี แต่ดอลลาร์ที่อ่อนค่า ขณะนี้ ก็มาจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะมีกำหนดการเกิดขึ้นในวันอังคารและวันพุธนี้
• ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงไปที่ 96.175 จุด หลังจากที่ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิ.ย. ปี 2017 ในสัปดาห์ที่แล้ว
• รายงานจาก CFTC ชี้ว่า บรรดาเฮดจ์ฟันด์ และกลุ่มผู้จัดการกองทุนมีการเพิ่มการเปิดสถานะ Short Position ในสัญญาทองคำตลาด COMEX ติดต่อกัน 6 สัปดาห์แตะระดับต่ำสุดเมื่อ 14 ส.ค.
• นักวิเคราะห์บางรายและกลุ่มนักลงทุนบางส่วนมีการทำสถานะ Short Position มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งกองทุน ETFs มีการปิดสถานะลง จึงยังบ่งชี้ถึงภาวะการเคลื่อนไหวของทองคำในแดน Oversold
ปริมาณความต้องการทองคำในประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่เป็นลำดับที่ 2 อย่างอินเดีย ดูจะปรับขึ้นได้ในสัปดาห์ที่แล้วจากราคาทองคำที่ปรับตัวลงจึงทำให้เกิดความน่าสนใจในการเข้าซื้อ และผลักดันให้ค่าพรีเมียมทองคำเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศเอเชียด้วยเช่นกัน
• ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 14.78 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 1% แถวระดับ 789.7 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมทรงตัวที่ 910.75 เหรียญ