• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยราคาปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง 3 วันทำการ หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่พอใจต่อแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
• ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,193.92 เหรียญ ขณะที่ Gold Futures ปรับขึ้น 0.5% แถว 1,200.6 เหรียญ
• หัวหน้าฝ่ายการซื้อขายของ OANDA กล่าวว่า ถ้อยแถลงกล่าวย้ำของนายทรัมป์ ได้ส่งผลเชิงลบต่อค่าเงินดอลลาร์ และทำให้กลับมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยจะเห็นได้ถึงการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักและค่าเงินเยน หลังจากที่นายทรัมป์ กล่าวถ้อยแถลงเมื่อคืนนี้
• เฟดมีการประเมินว่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้อีกจำนวน 2 ครั้งปีนี้ หลังจากที่ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ยังคงกล่าวย้ำมุมมองที่ว่า เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้อีกครั้งเดียวในปีนี้
• กลุ่มนักลงทุนรอคอยรายงานประชุมเฟดเดือนส.ค. ที่จะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ ประกอบกับการประชุมธนาคารกลางประจำปี ณ เมืองแจ็กสัน โฮล ในช่วงปลายสัปดาห์
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ราคาทองคำอาจสิ้นสุดการดีดกลับแถวระดับแนวต้านบริเวณ 1,206 เหรียญ ก่อนจะกลับลงต่อ
• ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 14.75 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.6% ที่ระดับ 798.5 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับทรงตัวที่ 910.5 เหรียญ
• นักกลยุทธ์หลายราย มองว่า การร่วงลงของราคาทองคำ มาพร้อมกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่เพียงพอจะทำให้นักลงทุนในตลาดต่างมองว่าราคาทองคำน่าจะเป็นขาลง จึงทำใ้หมีการถือครองสถานะ Short ในทองคำ ซิลเวอร์ และแพลทินัมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ทั้ง 3 โลหะมีค่าดังกล่าวมีสถานะ Short เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี2001
• ดีลเลอร์ทองคำรายหนึ่ง กล่าวกับสำนักข่าว Kitco ว่า การดำเนินนโยบายของเฟดในปัจจุบันถือเป็นจุดสนใจในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางบรรดานักธนาคารกลางทั่วโลกที่จะพบกันในการประชุมประจำปี ณ เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง และการกล่าวถ้อยแถลงครั้งนี้อาจเป็นผลบวกต่อราคาทองคำได้
• ในขณะที่ราคาทองคำได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ นักวิเคราะห์จาก Degussa ก็คาดหวังว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเปลี่ยนทิศจากการดำเนินนโยบายของเฟด เนื่องจากท่าทีคุมเข้มทางการเงินของเฟด และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก