· ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำการ ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวตำหนิแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และเฟดควรพยายามเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจกว่านี้
ค่าเงินยูโรหลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 13 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีการปรับแข็งค่าขึ้นกลับมายืนเหนือ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโรได้ ขณะที่ภาพทางเทคนิคของกราฟดัชนีดอลลาร์ จะเห็นว่าจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 13 เดือนก็เริ่มมีการอ่อนตัวกลับลงมา
· ตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนจะดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าต่อภายในคืนนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้กล่าวว่าเขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับการเจรจาครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม การเจรจาในระดับกลางครั้งนี้ อาจสามารถช่วยตั้งรากฐานสำหรับการเจรจาในครั้งต่อๆไปได้ ในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างพยายามขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากกันละกัน ส่งผลให้ความขัดแย้งทางการค้ายิ่งมีสัญยาณที่เลวร้ายลง
.png)
· รายงานจาก Bloomberg รายงานว่า ประเด็นการกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ระหว่างสหรัฐฯและจีน กลายมาเป็นประเด็นสำคัญต่อตลาด โดยมีการคาดการณ์ว่า หัวข้อในการเจรจาครั้งนี้จะหนีไม่พ้นเรื่องของ Trade War ที่อาจนำไปสู่การตกลงกันได้สำเร็จโดยปราศจากความสูญเสียที่เกินจะยอมรับได้ในทางการเมือง
แม้ว่าในขณะนี้ เราจะยังไม่ได้รับบทสรุปที่ชัดเจนจากการเจรจาครั้งนี้ แต่ Trade War จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็ทำให้เราตระหนักได้ว่ามันง่ายที่จะเริ่มแต่ยากที่จะยุติ และทำให้ทั้งสองประเทศต้องหันมาเจรจากันด้วยสันติวิธี เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเมืองของแต่ละประเทศนั้นมีแต่ะฉุดให้เกิดความเสียหายที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ภาคการค้าจะคิดเป็น 38% ของจีดีพีจีน และอีก 27% ของจีดีพีสหรัฐฯ และหากในปัจจุบันข้อขัดแย้งทางการค้าของสองประเทศเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 6.5 แสนล้านเหรียญ ก็จะส่งผลให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน อันหมายรวมไปถึงความเชื่อมั่นใจตลาดต่างๆด้วย
· รายงานประชุมเฟดที่จะเปิดเผยในคืนนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เฟดตัดสินใจคิดล่าสุดเกี่วกับการขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าจะถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์อยู่ก็ตาม ซึ่งหลังจบรางานดังกล่าว อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่จะกล่าว ณ ที่ประชุม Jackson Hole รัฐไวโอมิ่ง
· มุมมองนักวิเคราะห์จาก Mizuho Bank มองว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีการฟื้นตัวจากความคาดหวังที่ว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนนั้นจะเป็นไปด้วยดี แม้ว่านายทรัมป์ จะไม่ได้คาดหวังจะเห็นความคืบหน้ามากมายนัก และตัวเขาเองก็ไม่ได้มีกรอบระยะเวลาที่จะสิ้นสุดความขัดแย้งทางการค้าใดๆ
· เมื่อคืนที่ผ่านมา อาจเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังอดีตทนายที่ปรึกษาส่วนตัวของเขาได้ยอมรับสารภาพต่อคดีกับเหล่าอัยการกลาง ในช่วงไล่เลี่ยกันกับการที่อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของนายทรัมป์ถูกพบว่ามีความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง
· นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายที่ปรึกษาส่วนตัวของนายทรัมป์ ยอมรับสารภาพว่าเขาถูกนายทรัมป์ สั่งให้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับนางแบบนิตยสาร Playboy 2 คน เพื่อปิดปากพวกเธอว่าเคยมีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ ก่อนช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง
· นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า นโยบายคว่ำบาตรอิหร่านได้ผลลัพณ์ที่เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงเชื่อว่าอิหร่านจะยังคงมีท่าทีต่อต้านสหรัฐฯต่อไป
· นายโคจิ อิชิดะ อดีตคณะกรรมการบีโอเจ กล่าวว่า ด้วยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปัจจุบัน บีโอเจควรที่จะทยอยลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษลง แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังขยายตัวได้ไม่ถึงระดับ 2% ตามเป้าหมายก็ตาม
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนจากการขาดแคลนน้ำมันของอิหร่านในเดือนพ.ย.เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 72.83 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 66.12 เหรียญ/บาร์เรล