• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2561

    22 สิงหาคม 2561 | Economic News

·       ค่าเงินดอลลาร์เริ่มทรงตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ที่กล่าวตำหนิการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ขณะที่ตลาดกำลังจับตาดูความคืบหน้าของการประชุมระหว่างตัวแทนจากสหรัฐนและจีน รวมถึงรายงานการประชุมเฟดที่จะเปิดเผยในค่ำคืนนี้

โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ บริเวณ 95.186 จุด หลังจากที่อ่อนค่าลงถึง 0.7% เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทำระดับต่ำสุดรายวันที่ 95.070 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 9 ส.ค.

ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นได้จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อคืนนี้ 0.8% ทำระดับสูงสุดรายวันที่ 1.1601 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ในช่วงตลาดเอเชียยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวก บริเวณ 1.1577 ดอลลาร์/ยูโร

·       วิเคราะห์ค่าเงินยูโร : ยูโรยืนเหนือ 1.1572 ได้สำเร็จ เป้าหมายต่อไป 1.1628 !

ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สามารถกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นได้ หลังจากที่ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ค่าเงินสามารถปิดเหนือแนวต้าน 1.1572 ได้

ดังนั้น ค่าเงินวันนี้มีแนวโน้มที่จะปรับแข็งค่าขึ้นได้ต่อ เนื่องจากแรงกลับตัวหลังจากที่ปรับอ่อนค่าถือได้ว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง

โดยค่าเงินจะมีเป้าหมายต่อไปที่ 1.1628 ตามมาด้วย 1.1667 อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินวันนี้หลุดลงมาต่ำกว่า 1.1400 ก็จะทำให้ทิศทางขาขึ้นระยะสั้นจบสิ้นลง

·       ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำการ ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวตำหนิแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และเฟดควรพยายามเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจกว่านี้

ค่าเงินยูโรหลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 13 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีการปรับแข็งค่าขึ้นกลับมายืนเหนือ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโรได้ ขณะที่ภาพทางเทคนิคของกราฟดัชนีดอลลาร์ จะเห็นว่าจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 13 เดือนก็เริ่มมีการอ่อนตัวกลับลงมา

·       ตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนจะดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าต่อภายในคืนนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้กล่าวว่าเขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับการเจรจาครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม การเจรจาในระดับกลางครั้งนี้ อาจสามารถช่วยตั้งรากฐานสำหรับการเจรจาในครั้งต่อๆไปได้ ในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างพยายามขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากกันละกัน ส่งผลให้ความขัดแย้งทางการค้ายิ่งมีสัญยาณที่เลวร้ายลง

·       รายงานจาก Bloomberg รายงานว่า ประเด็นการกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ระหว่างสหรัฐฯและจีน กลายมาเป็นประเด็นสำคัญต่อตลาด โดยมีการคาดการณ์ว่า หัวข้อในการเจรจาครั้งนี้จะหนีไม่พ้นเรื่องของ Trade War ที่อาจนำไปสู่การตกลงกันได้สำเร็จโดยปราศจากความสูญเสียที่เกินจะยอมรับได้ในทางการเมือง

แม้ว่าในขณะนี้ เราจะยังไม่ได้รับบทสรุปที่ชัดเจนจากการเจรจาครั้งนี้ แต่ Trade War จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็ทำให้เราตระหนักได้ว่ามันง่ายที่จะเริ่มแต่ยากที่จะยุติ และทำให้ทั้งสองประเทศต้องหันมาเจรจากันด้วยสันติวิธี เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเมืองของแต่ละประเทศนั้นมีแต่ะฉุดให้เกิดความเสียหายที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ภาคการค้าจะคิดเป็น 38% ของจีดีพีจีน และอีก 27% ของจีดีพีสหรัฐฯ และหากในปัจจุบันข้อขัดแย้งทางการค้าของสองประเทศเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 6.5 แสนล้านเหรียญ ก็จะส่งผลให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน อันหมายรวมไปถึงความเชื่อมั่นใจตลาดต่างๆด้วย

·       รายงานประชุมเฟดที่จะเปิดเผยในคืนนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เฟดตัดสินใจคิดล่าสุดเกี่วกับการขึ้นดอกเบี้ย  แม้ว่าจะถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์อยู่ก็ตาม ซึ่งหลังจบรางานดังกล่าว อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่จะกล่าว ณ ที่ประชุม Jackson Hole รัฐไวโอมิ่ง

·       มุมมองนักวิเคราะห์จาก Mizuho Bank มองว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีการฟื้นตัวจากความคาดหวังที่ว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนนั้นจะเป็นไปด้วยดี แม้ว่านายทรัมป์ จะไม่ได้คาดหวังจะเห็นความคืบหน้ามากมายนัก และตัวเขาเองก็ไม่ได้มีกรอบระยะเวลาที่จะสิ้นสุดความขัดแย้งทางการค้าใดๆ

·       เมื่อคืนที่ผ่านมา อาจเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังอดีตทนายที่ปรึกษาส่วนตัวของเขาได้ยอมรับสารภาพต่อคดีกับเหล่าอัยการกลาง ในช่วงไล่เลี่ยกันกับการที่อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของนายทรัมป์ถูกพบว่ามีความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง 

·       นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายที่ปรึกษาส่วนตัวของนายทรัมป์ ยอมรับสารภาพว่าเขาถูกนายทรัมป์ สั่งให้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับนางแบบนิตยสาร Playboy 2 คน เพื่อปิดปากพวกเธอว่าเคยมีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ ก่อนช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง

·       นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า นโยบายคว่ำบาตรอิหร่านได้ผลลัพณ์ที่เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงเชื่อว่าอิหร่านจะยังคงมีท่าทีต่อต้านสหรัฐฯต่อไป

·       นายโคจิ อิชิดะ อดีตคณะกรรมการบีโอเจ กล่าวว่า ด้วยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปัจจุบัน บีโอเจควรที่จะทยอยลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษลง แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังขยายตัวได้ไม่ถึงระดับ 2% ตามเป้าหมายก็ตาม

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนจากการขาดแคลนน้ำมันของอิหร่านในเดือนพ.ย.เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 72.83 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 66.12 เหรียญ/บาร์เรล


Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com