• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2561

    23 สิงหาคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับอ่อนค่าต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองเกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เพิ่มมากข้น ประกอบกับตลาดอ่อนตัวลงหลังรายงานประชุมเฟดดูมีท่าทีระมัดระวังต่อประเด็นทางการค้า

นายทรัมป์ กำลังได้รับผลสะท้อนจากการที่อดีตเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาทั้ง 2 รายของเขาที่ถูกจับกุมมีการรับสารภาพ จึงเป็นไปได้ที่ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพรรครีพับลิกันของเขาในช่วงเลือกตั้งเดือนพ.ย. และการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวอาจนำไปสู่การบั่นทอนตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาด้วย และทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างดอลลาร์

• นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองครั้งใหม่ของสหรัฐฯ อาจกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าได้ แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลปานกลางต่อดอลลาร์ในขณะนี้

• ดัชนีดอลลาร์ยังดูจะตอบรับกับถ้อยแถลงของนายทรัมป์ ที่วิจารณ์ต่อแนวทางขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนีดอลลาร์มาทำระดับต่ำสุดที่ 94.93 จุด

• นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Cambridge Global Payments กล่าวว่า แรงกดดันทางการเมืองเกี่ยวกับนายทรัมป์ที่เพิ่มขึ้น ได้ลดแนวโน้มที่เขาจะได้รับเม็ดเงินเพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นทางการเงินในสหรัฐฯ และนี่ทำให้ตลาดมองว่าอาจสิ้นสุดยุคของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐฯได้

• ความผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตค่าเงินในตุรกี ประกอบกับงบประมาณอิตาลี รวมทั้งการทำ Short Covering ได้ส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 6 วันทำการ โดยที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นอีก 0.5% ไปทำระดับสูงสุดที่ 1.162 ดอลลาร์/ยูโร

• ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่ามาที่ระดับ 110.53 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าไปทำระดับต่ำสุดที่ 109.76 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย.

• เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากสหรัฐฯและจีน เข้าพบกันเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือน เพื่อพยายามหาแนวทางแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างกันที่อาจช่วยยุติการขึ้นภาษีนำเข้าของทั้งสองประเทศที่จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้

• รายงานประชุมเฟดเดือนส.ค. แสดงให้เห็นว่า สมาชิกเฟดมีการหารือถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ท่ามกลางการประเมินเกี่ยวกับทิศทางความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แต่ความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลกก็อาจบั่นทอนภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนได้

อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดยังคงดอกเบี้ยในการประชุมวาระที่ผ่านมา แต่มีการหารือถึงความชัดเจนที่จะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากที่เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วจำนวน 2 ครั้งในปีนี้ และมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนหน้า

• รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส บ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจไม่พอใจกับแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากความแตกต่างในการดำเนินงานของเฟดอาจสร้างแรงกดดันต่อนโยบายเศรษฐกิจของเขา ท่ามกลางเฟดที่ต้องการสิ้นสุดการเข้าถือครองพันธบัตร และยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย

• สำหรับความขัดแย้งภายในรัฐสภาระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับร่างงบประมาณสำหรับการรักษาความปลอดภัยของการเลือกตั้งกลางวาระในเดือน พ.ย. ได้ส่งผลให้การลงมติในร่างบประมาณดังกล่าวถูกเลื่อนการลงมติออกไปอย่างไม่มีกำหนด

• โฆษกประจำทำเนียบขาวให้การปฏิเสธต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า นายทรัมป์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสารภาพของนายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายที่ปรึกษาส่วนตัวของนายทรัมป์ ที่ได้ยอมรับสารภาพต่อ 8 คดี อันเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงฉ้อโกงธนาคารและภาษี รวมถึงความเป็นไปได้ที่อาจละเมิดกฎหมายการเงินสำหรับการหาเสียงปี 2016 ประกอบกับนำเงินภาครัฐไปจ่ายค่าปิดปากนางแบบสาว 2 คนในช่วงหาเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เคยมีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์

• ผู้นำกลุ่ม Islamic State ออกกล่าวปราศรัยปลุกระดมให้ผู้ติดตามทำการต่อสู้ต่อไป แม้ว่าจะพ่ายแพ้เมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม พร้อมกล่าวแสดงความยินดีต่อเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในแคนาดาและยุโรปเมื่อเร็วๆนี้ ที่มีการใช้ระเบิด มีด และรถยนต์ในการก่อเหตุ

• ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 3% โดยสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงตลาดยังให้ความสำคัญกับประเด็นการคว่ำบาตรในอิหร่านที่จะส่งผลให้ภาวะอุปทานน้ำมันมีความตึงตัว

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 3% ที่ระดับ 74.78 เหรียญ/บาร์เรล หลังช่วงก่อนหน้านี้ไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 31 ก.ค. ที่ระดับ 75.00 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวสูงขึ้น 3.1% ที่ระดับ 67.86 เหรียญ/บาร์เรล

• กลุ่มบริษัทน้ำมันในยุโรปเริ่มมีการปรับลดการเข้าซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน แม้ว่าจีนจะยังมีการเข้าซื้ออยู่ก็ตาม แต่ประเด็นความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ทำให้อิหร่าน กล่าวเตือนว่า สหรัฐฯและอิสราเอลอาจได้รับผลกระทบจากการตอบโต้ของอิหร่านด้วยเช่นกัน หลังจากที่ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯกล่าวเตือนว่า อาจเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านผ่านมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

• กลุ่มโอเปกได้เริ่มเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงกับรัสเซียและพันธมิตรอื่น ๆ ในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า กลุ่มโอเปกจะ จะลดปริมาณการผลิตในเดือนก.ค.แทนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตตามที่คาดไว้

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com