· ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ร่วงลงกว่า 0.5% หลังจากที่ นายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย อาจประกาศลาออก หลังจากที่รัฐมนตรีอาวุโส 3 คนได้ทำการยื่นจดหมายลาออก อย่างไรก็ดี นายเทิร์นบูล กล่าวว่า เขาอาจจะชะลอการโหวตผู้นำครั้งที่สองออกไปก่อน หากเขาได้รับจดหมายลาออกจากพรรคลิเบอรัลอีก
ค่าเงินออสซี่ปรับอ่อนค่าลง 0.8% ที่ระดับ 0.7293 ออสซี่/ดอลลาร์ โดยอยู่ไม่ห่างจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 0.72025 ออสซี่/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 19 เดือนที่ทำไว้เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
ค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าอีก 0.36% มาที่ 6.8734 หยวน/ดอลลาร์ หลังจากที่การเจรจาในวันนี้เป็นวันเดียวกับการที่สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนจะมีผลบังคับใช้
ค่าเงินปอนด์ปรับอ่อนค่าลง 0.4% มาที่ 1.2864 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่อังกฤษกล่าวว่า จะเตรียมแผนสำหรับ Brexit หากอังกฤษออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ
· ภาพทางเทคนิคของกราฟดัชนีดอลลาร์ที่ทาง Trading View นำเสนอ จะเห็นว่าดัชนีดอลลาร์มีความผันผวนหลังจากที่มีการ Break ภาพเทรนขาขึ้น และเริ่มเห็นถึงการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ แต่หากดัชนีเคลื่อนไหวตามที่ประเมินไว้ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะหาจังหวะเข้าถือครองอีกครั้ง แถวแนว 94 จุด ตราบเท่าที่ราคาไม่หลุดลงไปแถว 93.20 จุด ก็ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะถือค่าเงินดอลลาร์ตามมเทรนแข็งค่าได้ต่อ
· ทิศทางขาลงของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ (EUR/USD) ดูจะชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขณะที่รายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนดูจะไม่สามารถช่วยชะลอแรงเข้าซื้อในค่าเงินยูโรได้ โดยค่าเงินยูโรมีการปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังรายงานประชุมเฟด แต่ก็ปรับอ่อนค่ากลับลงมาเคลื่อนไหวในระดับเดิมหลังจากนั้นไม่นาน
ทิศทางขาขึ้นระยะสั้นของค่าเงินยูโรยังคงมีอยู่ โดยค่าเงินยังเคลื่อนไหวสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 50, 100, และ 200 วัน และทิศทางขาขึ้นจำเป็นต้องผ่านระดับ 1.1628 ไปให้ได้ เพื่อที่จะมีโอกาสขึ้นต่อไปได้ถึงระดับ 1.1667 ที่เป็นระดับสูงสุดของวันที่ 2ส.ค. จนถึงระดับ 1.1750
ในขณะเดียวกัน หากค่าเงินอ่อนค่าลงมาต่ำกว่า 1.1500 ทิศทางขาขึ้นระยะสั้นก็จะจบสิ้นลง
· สหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มที่จะทำให้ความขัดแย้งทางการค้าขยายตัวยิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแต่ละฝ่ายอีก 25% เป็นมูลค่าอีก 1.6 หมื่นล้านเหรียญ รวมเป็นมูลค่าภาษีถึง 5 หมื่นล้านเหรียญ นับตั้งแต่การขึ้นภาษีในเดือน ก.ค.
โดยทางฝั่งสหรัฐฯจะทำการประกาศรายชื่อสินค้าที่จะถูกปรับขึ้นภาษีอย่างป็นทางการภายในสัปดาห์นี้
การประกาศขึ้นภาษีครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในระหว่างที่ตัวแทนจากทั้ง 2 ฝ่ายกำลังดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าอยู่ ณ กรุงวอชิงตัน ภายในสัปดาห์นี้
· นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นไปด้วยดี แต่การที่สหรัฐฯทำการคว่ำบาตรรัสเซียถือเป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์และไร้เหตุผล
ขณะเดียวกัน ยุโรปจำเป็นต้องพึ่งโครงการท่อส่งก๊าซ Moscow-led Nord Stream-2 และรัสเซียเป็นผู้จัดจำหน่ายที่มีเสถียรภาพด้านพลังงานที่สูงที่สุดสำหรับยุโรป
· ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส บ่งชี้ว่า กลุ่มนักลงทุนมีการปรับลดสถานะ Short Position ในตลาดค่าเงินเอเชียช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับตลาดให้ความสำคัญกับมุมมองเชิงบวกจากการกลับมาเจรจากันระหว่างสหรัฐฯและจีน และทิศทางคุมเข้มทางการเงินในภูมิภาคที่ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น แม้ว่าปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะลดลงก็ตาม
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 24 เซนต์ ที่ะรดับ 74.54 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 6 เซนต์ ที่ระดับ 67.80 เหรียญ/บาร์เรล