• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2561

    24 สิงหาคม 2561 | Economic News

• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากที่ปรับอ่อนค่าลงไป 5 วันทำการ ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง ท่ามกลางการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯและจีน จึงช่วยหนุนดอลลาร์ให้ปรับแข็งค่าขึ้นมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันตลาดจับตาประชุมแจ็กสัน โฮล ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวานนี้

ความตึงเครียดของสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้ากลับมาอีกครั้ง โดยต่างฝ่ายต่างเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของกันและกันเพิ่มอีก 25% มูลค่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญ จึงหนุนดอลลาร์ให้ปรับแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe-Have

ขณะที่การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังคงดำเนินต่อไปในเรื่องความขัดแย้งทางการค้า แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า น่าจะไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนักในครั้งนี้ จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่า ข้อขัดแย้งล่าสุดจะลดความเป็นไปได้ในการจะยุติการขยายวงกว้างของ Trade War

• นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ในการเจรจาเบื้องต้น ดูไม่มีแนวโน้มที่จะเห็นความคืบหน้า แม้ว่าจะเข้าสู่การเจรจาในวันที่ 2 ท่ามกลางประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ยังคงมีความแตกต่างในการดำเนินงานทางการเมืองและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติการดำเนินการใดๆ

• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนวันพุธที่ 94.934 จุด โดยล่าสุดอยู่แถว 95.395 จุด ค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าขึ้นมาที่ 6.883 หยวน/ดอลลาร์

• นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีกำหนดการจะกล่าวถ้อยแถลงในคืนวันนี้ ณ ที่ประชุมแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง โดยเขาถูกคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลงมาอยู่ที่ 3.9% และเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด

• ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงมาที่ 1.156 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาหื บริเวณ 1.162 ดอลลาร์/ยูโร

อย่างไรก็ดี แม้ค่าเงินยูโรจะถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ แต่ก็ยังได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคธุรกิจในยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นได้ตามคาด

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีขึ้นเกินคาด โดยมีคนว่างงานลดลงเล็กน้อยประมาณ 2,000 รายเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ 210,000 ราย ซึ่งยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานแม้ว่าจะเผชิญกับภาวะตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนรวมทั้งประเทศคู่ค้าที่ต่างฝ่ายต่างยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมกัน

• ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส ชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3 หลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี เมื่อช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยผลสำรวจสะท้อนว่า จากการขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.1% เราอาจเห็นจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสนี้ปรับลงมาแถว 3% ขณะที่ปีหน้าจะเติบโตได้ราว 2.7%

• การเจรจาระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนที่กินเวลาถึง 2 วัน จบลงโดยไม่มีข้อตกลงร่วมกันเมื่อวานนี้ ขณะที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแต่ละฝ่ายเป็นมูลค่าอีก 1.6 หมื่นล้านเหรียญ

ด้านโฆษกประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาระบุว่า “การเจรจาเมื่อคืนนี้ แต่ละฝ่ายได้ทำความเข้าใจกันถึงปัญหาของอีกฝ่าย เพื่อต่อยอดไปถึงการหาข้อตกลงและสร้างความยุติธรรมทางการค้าสำหรับการเจรจาครั้งต่อๆไปในอนาคต”

อย่างไรก็ตาม การประกาศขึ้นภาษีแต่ละฝ่ายอีก 25% เมื่อวานนี้ ไม่ได้มีส่วนทำให้การเจรจาไม่สามารถข้อตกลงได้แต่อย่างใด

• นายหวัง โชเหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แห่งประเทศ ที่เป็นผู้นำทีมเจรจากับสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวผ่านเว็บไซท์ของกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า การเจรจามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และทั้งสองฝ่ายก็ตกลงที่จะมีการติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อการเจรจาในรอบต่อไป

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าววิพากษ์วิจารณ์นายเจฟ เซสชั่น อัยการสูงสุดแห่งสหรัฐฯ จากกรณีตั้งข้อกล่าวหากับนายพอล มานาฟอร์ด อดีตหัวหน้าทีมหาเสียงของทรัมป์ และการให้ปากคำของนายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัว โดยระบุว่านายเจฟไม่มีความสามารถที่จะควบคุมกระทรวงยุติธรรมได้

• ราคาน้ำมันดิบทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่กดดันปริมาณความต้องการที่คาดไว้หลังจากราคาพุ่งสูงขึ้นจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 5 เซนต์ ที่ระดับ 74.73 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3 เซนต์ ที่ระดับ 67.83 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com