
Robin Xing หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจจีนประจำ Morgan Stanley เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะมีการออกมาตรการมาบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
โดย Xing กล่าวว่า “เรามองว่าทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงนักจากนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลจีนจะมีการออกนโยบายมาบรรเทาผลกระทบดังกล่าว”
ขณะที่ตลาดกำลังจับตาการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่าอีก 2 แสนล้านเหรียญของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
Xing ประเมินว่า หากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Supply Chain ความเสียหายต่อเศรษฐกิจจีนอาจมีความรุนแรงยิ่งขึ้น จนอาจทำให้จีนสูญเสียอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไปได้ถึง 0.7%
และถ้าหากการขึ้นภาษีส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจีนจริง รัฐบาลจีนอาจยกระดับมาตรการบรรเทาความเสียหาย เช่น ออกนโยบายลดอัตราภาษีในประเทศ หรือนโยบายกระตุ้นเครดิตและสภาพคล่องของระบบการเงิน
อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีของสหรัฐฯดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนเสียแล้ว จะเห็นได้จากข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของจีนที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของยอดส่งออก ซึ่ง Xing คาดว่า กิจการของภาคอุตสาหกรรมจะชะลอตัวยิ่งกว่านี้ในเดือน ส.ค. ขณะที่ทางรัฐบาลจีนก็มีแนวโน้มจะบรรเทาความเสียหายดังกล่าวภายในเดือน ก.ย. และ ต.ค. ด้วยการออกพันธบัตรเพิ่ม
นอกจากนี้ ภายในไตรมาสที่ 4/2018 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะได้ผลกระทบจากนโยบายภาษีที่เบาบางลง ผ่านการลงทุนในภาคโครงสร้างพื้นฐานที่จะขยายตัวขึ้น
ทั้งนี้ Morgan Stanley คาด GDP จีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.4% ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 6.8%
ที่มา: CNBC
