• ดัชนี S&P 500 สามารถปรับสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดอีกครั้ง ในคืนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะสามารถ Break สูงขึ้นได้อีก ท่ามกลางปัจจัยบวกอย่างความสำเร็จในการเจรจาภายใต้สนธิสัญญา NAFTA ระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก และโอกาสที่แคนาดาจะกลับมาเข้าร่วมการประชุมซึ่งมีค่อนข้างสูงเช่นกัน ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า ดัชนีจะมีแรงเข้าซื้อมากพอที่จะหนุนให้ดัชนีขึ้นต่อไปถึงระดับ 2,900 จุด ซึ่งหากสูงขึ้นถึงระดับนี้ได้จริง ก็จะเกิดเข้าซื้อตามเข้ามาอีกมาก อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินดอลลารืยังคงอ่อนค่าลง ก็อาจเป็นปัจจัยที่กดดันการขยายตัวในคืนนี้ได้
• ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการกลุ่มบริษัทและการเจรจาทางการค้าโลก
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.3% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงต้นตลาดก่อนจะปิดปรับตัวลง ท่ามกลางตลาดหุ้นจีนที่กังวลว่า ภาคบริษัทฯ มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจาก Trade Warและดูจะได้รับแรงผ่อนคลายเล็กน้อยในภาคธุรกิจที่ลดแรงตึงเครียดลงในอเมริกาเหนือและยุโรป
ขณะที่ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลดลง 0.3% โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้นภูมิภาค ที่ช่วยชดเชยความตึงเครียดจากจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.9% และดัชนีฮั่งเส็งปิด -0.8%
หุ้นออสเตรเลียปิดทรงตัว ขณะที่ดัชนีนิกเกอิช่วงต้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน ตามการปิดแดนบวกของหุ้นสหรัฐฯ ก่อนที่ช่วงปลายตลาดภาพรวมดัชนีนิกเกอิจะปิด +0.05% ขณะที่ดัชนีKospi ของเกาหลีใต้ปิดอ่อนตัว
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบดว่า 3 เดือน โดยได้รับปรงหนุนจากความคืบหน้าในเชิงบวกในการเจรจาทางการค้าหนุนความเชื่อมั่นให้กับเหล่านักลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.1% ท่ะรดับ 22,869.50 จุด หลังจากที่เพิ่มขึ้นไปบริเวณ 23,032.17 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ติดต่อกัน 3 วันทำการ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ทั้งนี้ ดัชนี ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.1% ที่ระดับ 2,737.74 จุด