1.ตลาดสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันหยุด Labor Day
เนื่องจากตลาดสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองในวัน Labor day หรือ วันแรงงาน ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเมื่อคืนมีค่อนข้างเบาบาง ขณะที่ดัชนีรายใหญ่อย่าง Dow Jones, S&P 500, และ Nasdaqต่างไม่มีการเคลื่อนไหวโดนสิ้นเชิง
2.ดัชนีหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ยังคงดิ่งลง
ดัชนีตลาดหุ้นโลกปรับลดลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ที่ต่างได้รับกระทบจาก Trade war ระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ดัชนีหุ้นยุโรปต่างปรับตัวลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนลบ
3.จับตาค่าเงินของตลาดเกิดใหม่
บรรดานักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแรงเทขายอย่างหนักในค่าเงินของตลาดเกิดใหม่อย่างตุรกีหรืออาเจนติน่าที่เกิดขึ้นในเดือนที่ผ่านมา และกลายเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจที่มีต้นเหตุมาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ
โดยค่าเงินลีราตุรกีได้ถูกเทขายลงมาอีกครั้งเมื่อวานนี้ ส่งผลให้อ่อนค่าอีก 2% บริเวณ 6.7328 ลีรา/ดอลลาร์ ก่อนจะปรับแข็งค่ากลับมาได้บางส่วนหลังรัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมากล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินลีรายังไม่เป็นความเสี่ยงต่อระบบธนาคารหรือหนี้สินภายนอก
ด้านค่าเงินแรนด์แอฟริกาใต้ปรับอ่อนค่าลงอยู่ที่บริเวณ 14.7982 แรนด์/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
ความผันผวนของตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ ยังได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกอีกด้วย
โดยค่าเงินรูเปียห์อินโดนีเซียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 14,849.30 รูเปียห์/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤติทางเศรษฐกิจเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บรรดาตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากความกังวลว่าสหรัฐฯจะเพิ่มแรงกดดันต่อบรรดาประเทศที่มีการกู้ยืมเงินดอลลาร์จากสหรัฐฯเป็นปริมาณมาก
4.ความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อ
หัวข้อข่าวที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทาการค้าจะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดในช่วงสัปดาห์นี้ โดยตลาดกำลังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาภายใต้สนธิสัญญา NAFTA ระหว่างสหรัฐฯและแคนาดา ที่แม้จะไม่สามารถหาข้อตกลงได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตัวแทนจากทั้ง 2 ประเทศก็มีกำหนดการจะกลับมาเจรจากันใหม่ภายในคืนวันพฤหัสบดีนี้
อย่างไรก็ตาม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับได้ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ไม่จำเป็นจะต้องรักษาแคนาดาเอาไว้ในสัญญา NAFTA หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้” พร้อมเตือนไม่ให้สภาคองเกรสเข้าแทรกแซงการเจรจา ไม่เช่นนั้นเขาจะทำการยกเลิกสัญญา NAFTA ลงโดยทันที
นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอีกด้วย โดยเฉพาะสัญญาณหรือแนวโน้มที่ว่านายทรัมป์อาจประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 2 แสนล้านเหรียญภายในสัปดาห์นี้
5.ประเด็น Brexit ที่ยังไม่จบ
เหลืออีก 2 เดือนกว่าๆที่จะถึงเดดไลน์สำหรับการหาข้อตกลงในการเจรจา Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป โดยนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ยังคงไม่สามารถให้การรับรองใดๆเกี่ยวกับข้อตกลง Brexitที่เป็นมิตรกับเศรษฐกิจของอังกฤษได้เลย
ทางด้านนายไมเคิล บาร์เนียร์ ผู้นำการเจรจา Brexit จากฝ่ายสหภาพยุโรป ได้กล่าวตำหนิการดำเนินนโยบายของนางเมย์ ว่านโยบายของเธออาจเป็นจุดจบของ Single market และโครงการทางเศรษฐกิจต่างๆของสหภาพได้
นางเมย์ยังเผชิญกับแรงกดดันจากรัฐบาลของเธอเองด้วย โดยนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ ก็ได้กล่าวว่า แผน Brexit ของนางเมย์จะเป็นหายนะสำหรับอังกฤษเอง
ที่มา: Investing