ตลาดการเงินมีการตอบรับต่อค่าข้อมูลของ 5 ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เมื่อเฟดเริ่มตัดสินใจจะปรับลดยอดงบดุลบัญชีที่ได้เคยเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯไว้ในปี 2013 ซึ่งประเทศบราซิล, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ตุรกี และแอฟริกาใต้ เป็นกลุ่มประเทศที่มีการปรับอ่อนค่าเงินอย่างหนัก รวมทั้งยอดขาดดุลระดับสูง และความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศของตนเอง
ขณะที่การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีน ก็ได้กดดันกลุ่มประเทศเกิดใหม่เหล่านั้น แม้ว่าภาวะวิกฤตดูจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยจะเห็นได้จาก อินเดียและอินโดนีเซีย ที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและนำไปสู่การปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มที่จะมีการแย่งกันกู้เงิน ขณะที่กระแสเงินมีการไหลเข้ากองทุนจากความเสี่ยงในตลาดการเงินที่เพิ่มขึ้น
แต่ตลาดอาจกำลังรู้สึกเหมือนเผชิญกับภาวะเดจาวู ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้รับตำแหน่ง จึงจุดประกายสงครามทางการค้ากับจีน หรือแม้แต่ประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
วิกฤตทางการเงินดูเหมือนจะส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่เศรษฐกิจของทวีปอเมริกาใต้ จนถึงตุรกี, แอฟริกาใต้ และบางประเทศเศรษฐกิจใหญ่ในเอเชีย อาทิ อินเดียและจีน โดยจะเห็นได้ว่าค่าเงินของบางประเทศนั้นมีการปรับอ่อนค่าลงมาแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น รวมทั้งมีคนว่างงานจำนวนบ้าง และบางประเทศก็ประสบภาวะตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
ล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมมา ประเทศอาร์เจนตินาได้รับวงเงินอนุมัติฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟจึงยิ่งสร้างความตระหนกให้แก่ตลาด โดยที่ค่าเงินภายในประเทศมีการปรับอ่อนค่าลงมาแล้วกว่า 50% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางอาร์เจนตินามีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมาสู่ระดับ 60% และในขณะเดียวกันมีแรงเทขายกลับเข้าสู่ตลาดระหว่างสหรัฐฯและตุรกี ขณะที่ค่าเงินลีราของตุรกีเองก็ได้รับผลจากความขัดแย้งระหว่างตุรกีและสหรัฐฯ จากกรณีการจับกุมนักบวชชาวอเมริกา โดยค่าเงินลีรามีการปรับอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือปรับลงไปแล้วกว่า 40% ปีนี้ ท่ามกลางท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับทางสหรัฐฯของประธานาธิบดีเออร์ดูเกน
อย่างไรก็ดี ตลาดเกิดใหม่มีแรงเทขายอย่างหนักโดยเฉพาะตราสารหนี้ ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ที่พวกเขานำมาเพื่อใช้จ่ายหนี้ โดยข้อมูลจากสถาบัน Institute of International Finance แสดงให้เห็นว่า ระดับหนี้ในตลาดเกิดใหม่อันประกอบด้วยจีน เพิ่มขึ้นจากระดับ 9 พันล้านเหรียญ ในปี 2002 ปรับขึ้นสู่ระดับ 2.1 หมื่นล้านเหรียญในปี 2007 และล่าสุดในปี 2017 ยอดหนี้พุ่งมาที่ 6.3 หมื่นล้านเหรียญ ท่ามกลางหุ้น MSCI ของตลาดเกิดใหม่ที่ปรับตัวลงไปกว่า 9% แล้วในปีนี้
ที่มา: CNBC