ขณะที่ราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับลดลง 0.4% บริเวณ 1,202.10 เหรียญ
· ราคาทองคำโลกในปีนี้ได้ปรับลดลงไปแล้วประมาณ 8% ท่ามกลางแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ความขัดแย้งทางการค้า และวิกฤติเศรษฐกิจของตุรกี ที่ส่งผลให้เกิดแรงเข้าซื้อในเงินดอลลาร์ที่ถูกมองว่าเป็น Safe-haven จากกรณีดังกล่าว
· นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Precious Metals ประเมินว่า “วิกฤติทางเศรษฐกิจในบรรดาตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้ค่าเงินของตลาดเหล่านั้นอ่อนค่าลง จึงช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาและกดดันราคาทองคำ โดยจะเห็นได้ว่า ค่าเงินเปโซอาร์เจนติน่า ลีราตุรกี ลีอัลบราซิล รูเปียห์อินโดนีเซีย และรูปีอินเดีย ต่างอ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดที่ 95.410 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา
“ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวตามค่าเงินดอลลาร์ดอลลาร์และสัญญาณของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก” นักวิเคราะห์กล่าวเสริม
· ตลาดกำลังจับตาการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันอังคารนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางของราคาทองคำในสัปดาห์นี้รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าอื่นๆด้วย
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดราคาทองคำจะร่วงลงไปแตะระดับ 1,190 เหรียญ เมื่อพิจารณาจาการเคลื่อนไหวของกราฟ
· นักวิเคราะห์จาก SMC Comtrade ประเมินว่า ราคาทองคำน่าจะทำ Bottom out ที่บริเวณ 1,190 เหรียญ และจะมีแรงเข้าซื้อทองคำกลับเข้ามาได้บางส่วน เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงเทศกาลของประเทศอินเดีย รวมถึงแรงเข้าซื้อจากจีนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับขึ้นเหนือระดับ 1,220 เหรียญ อาจส่งผลให้ปรับขึ้นต่อไปถึงระดับ 1,237 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.4% บริเวณ 14.40 เหรียญ หลังร่วงลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 14.35 เหรียญ