MTS Help Center

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเก็บภาษีระหว่างสหรัฐฯกับจีนและอาจจะกดดันต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน ท่ามกลางความกังวลที่ว่านักท่องเที่ยวจะซื้อสินค้าน้อยลงเนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่นที่เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นที่สนามบิน จึงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องสำอาง

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.51% ที่ระดับ 22,580.83 จุด

• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงกว่า 1% ท่ามกลางการร่วงลงของหุ้นภาคธนาคาร หุ้นอสังหาริมทรพย์และหุ้นทรัพยากร ท่ามกลางสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมทั้งประเด็นความไม่แน่นทางการค้าสหรัฐฯกับจีนที่เพิ่มขึ้น โดยดัชนี Shanghai Compositeลดลง 1.7% ที่ระดับ 2,704.34 จุด

• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นการค้าที่กลับมาอีกครั้ง จึงกดดันต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของเหล่านักลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.4% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ

• ตลาดส่วนใหญ่ให้ความสนใจไปยังประเด็นการทางการค้าทั่วโลกซึ่งจะมีการหารือระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ โดย เจ้าหน้าที่อาวุโสจากทั้ง 2 ประเทศ จะหารือข้อแตกต่างหลักๆ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในนี้ ท่ามกลางแรงกดดันที่สหรัฐฯต้องการให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในเร็ววัน หลังจากรอบการเจรจาครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ

• นักวิเคราะห์จาก Citi Group กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของความเป็นชาตินิยมในอิตาลียังไม่เพียงพอที่จะหักล้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปีนี้ โดยตลาดน่าจะสามารถปิดปีนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง

แม้ว่าดัชนีหลักของอิตาลีอันได้แก่ FTSE MIB มีการปรับตัวลงมาแล้วเกือบ 7% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ก็มีการทำระดับสูงสุดในช่วงเดือนม.ค. ขณะที่กลุ่มนักลงทุนมีท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นจากความกังวลของความเป็นรัฐบาลชาตินิยมที่อาจเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่ภาครัฐ ซึ่งอาจทำให้เกิดระดับหนี้จำนวนมหาศาล จากการร่วมมือกันระหว่างพรรค Five Star Movement และพรรคขวาจัดอย่าง Lega ที่กำลังมีการเตรียมรายละเอียดของงบประมาณปี 2019 แต่เชื่อว่าดัชนี FTSE MIB ที่ปรับร่วงลงกว่า 29% ในปี 2016 น่าจะมีการฟื้นตัวและทำให้ปีนี้มีการขยายตัวได้ 27%

• นักวิเคราะห์จาก FX Empire ระบุว่า ดัชนี E-mini S&P500 (ES) ปิดแถวระดับ 2,898.25 จุด และคาดว่าบรรดาเทรดเดอร์กำลังรอตอบรับหากดัชนีเคลื่อนไหวแถวจุด Pivot Point ที่ 2,901.5 จุด โดยแนวโน้มหลักของตลาดระดับวันยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น แม้จะมีการอ่อนตัวลงมา ซึ่งการซื้อขายแถวบริเวณ 2,917.5 จุด จะช่วยยืนยันสัญญาณการปรับขึ้นได้ต่อ แต่หากปรับลงมาที่ 2,885.5 จุด จะยิ่งกดดันให้ดัชนีถูกแรงเทขายกลับลงมา

อย่างไรก็ดี คาดว่า ดัชนี E-min S&P500 จะเคลื่อนไหวในกรอบ หากต่ำกว่า 2,901.5 จุด จะถูกเทขายให้กลับมาที่ 2,885.5 จุด แต่หากไม่สามารถยืนต่อได้อีกก็มีโอกาส Break 2,873.5 จุด และจะยิ่งทำให้ภาพกลับกลายเป็นขาลงอย่างรวดเร็ว หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 2,873.5 ได้ โดยเป้าหมายถัดไปจะอยู่ระหว่างกรอบ 2,860.25 – 2,846.75 จุด

 แต่ถ้าไม่หลุด 2,901.5 จุด จะเป็นโอกาสที่ดีจากกลุ่มผู้ซื้อที่จะเพียงพอให้ราคากลับเป็นขาขึ้นได้ต่อ รวมทั้งอาจเห็นระดับราคาวิ่งไปที่ 2,912.5 จุด และ 2,917.5 จุด ตามลำดับ