• ราคาทองคำปรับตัวขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ทองคำ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่ถูกกดดันลงมา ขณะที่ค่าเงินหยวนยังคงอ่อนค่าต่อจากความกังวลเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,197.38 เหรียญ หลังจากที่เพิ่มขึ้นไป 0.5% เมื่อคืนนี้ ทางด้าน Gold Futures ปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,202 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์มีเสถียรภาพมากขึ้นจากแรงขายที่เข้ามาในตลาดทองคำตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยตลาดทองคำได้รับแรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกต่ออุปสงค์ความต้องการทองคำ โดยเฉพาะในอินเดีย ประกอบกับความเชื่อมั่นที่เพิ่มกลับขึ้นมาเล็กน้อยในตลาด
• ราคาทองคำปรับตัวลงไปแล้วกว่า 12% จากระดับสูงสุดบริเวณ 1,365.23 เหรียญในเดือนเม.ย. ท่ามกลางกำลังซื้อที่ลดน้อยลงในกลุ่มประเทศที่เป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อย่างอินเดียและจีน
• ยอดนำเข้าอินเดียปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในเดือนส.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน ท่ามกลางราคาที่ปรับตัวลงและกลุ่มภาคการผลิต
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงถูกกดดันมากที่สุดในปีนี้จากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ย, ความตึงเครียดทางการค้าโลก และวิกฤตค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ อันทำให้เกิดการเข้าซื้อดอลลาร์มากขึ้นในฐานะ Safe-Haven
• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 95.121 จุด หรืออ่อนค่าลงไปอีก 0.1% หลังจากที่ปรับลงไปเกือบ 0.3% เมื่อคืนวานนี้
• ตลาดกำลังจับตาใกล้ชิดไปยังรายงานจ้างงานสหรัฐฯคืนวันศุกร์นี้ ที่อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
• หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Geojit Financial Service กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์นั้นแข็งค่าขึ้นมาได้ และจะยิ่งกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะลงไปแถวแนวรับ 1,140 เหรียญ
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำมีแนวโน้มจะคเลื่อนไหวในกรอบ 1,160 – 1,238 เหรียญในช่วง 4 สัปดาห์
• ราคาซิลเวอร์ขยับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 14.17 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่งบริเวณ 13.97 เหรียญในช่วงต้นสัปดาห์
ราคาแพลทินัมทรงตัวที่ 783 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 973.5 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Trading View ระบุว่า ราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นและยังคงอยู่ในกรอบ โดยที่ราคามีการชนระดับแนวต้านรายวันแรกบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย MA 200วัน และหากราคาขึ้นชนไม่ผ่านในช่วง 3 วันทำการก็ถือเป็นโกอาสดีที่จะเห็นราคาปรับตัวกลับลงมา แต่หากผ่านไปได้ก็อาจเห็นราคา Breakout ออกจากกรอบดังกล่าว
กรอบการลงทุนระดับวัน
แนวต้านสำคัญ: $1199.5, $1202.8, $1210.5 และ $1218.2
แนวรับสำคัญ: $1191.8, $1187.4, $1179.7 และ $1172.0
ทางเลือกการลงทุน:
- หาจังหวะเปิดสถานะ Short หากราคาไม่ผ่านหรือไม่สามารถ Break ตัวออกจากกรอบแนวต้านตามกราฟราคาได้
จุดทำกำไร (TP1) แถว $1195 และจุด TP2 จะอยู่ที่บริเวณแนวรับแรก $1191.8
จุด Stop Loss ต้องเหนือระดับแนวต้านที่ 2 บริเวณ $1,202.8
อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรรอสัญญาณที่ชัดเจนก่อนทำการเปิดสถานะใดๆ
• นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะสิ้นสุดการฟื้นตัว และอาจเห็นราคากลับลงมาแถวระดับต่ำสุด 1,160 เหรียญตามภาพทางเทคนิค โดยที่ราคาทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวแถว 1,192 เหรียญ หรือภาพรวมราคาทองคำปรับตัวลงมาแล้วประมาณ 1.8% จากระดับสูงสุดเมื่อ 28 ส.ค. ที่ 1,214 เหรียญ
สำหรับเส้นค่าเฉลี่ย Moving Aveages ราย 5 วัน และ 10 วัน เริ่มดูจะกลับเป็นขาลง หลังจากที่เส้นมีการตัดกันเมื่อวานนี้ ทางด้านเส้น RSI ราย 14 วันก็ส่งสัญญาณขาลงเช่นกัน
ทั้งนี้ ราคาทองคำอาจกลับลงมาแถวระดับต่ำสุดเมื่อ 24 ส.ค. ที่ระดับ 1,183 เหรียญในช่วง 1-2 วันนี้ และหากหลุดลงมาจริงก็มีโอกาสเห็นราคากลับมาที่ 1,160 เหรียญ (ต่ำสุดเดิมเมื่อ 16 ส.ค.)
อย่างไรก็ดี ภาพราย 4 ชั่วโมง สะท้อนว่า ราคายังมีสัญญาณฟื้นตัวได้อยู่หากราคาลงไปแถวระดับต่ำสุด 1,160 เหรียญ ก็อาจเป็นโอกาสที่จะเห็นทองคำกลับขึ้น 1,214 เหรียญ