• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 20.88 จุด คิดเป็น +0.08% ที่ระดับ 25,995.87 จุด และดัชนี S&P500 ปิด -0.37% ที่ระดับ 2,878.05 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -0.91% ที่ระดับ 7,922.73 จุด
ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดปรับลงเมื่อวานนี้จากความเป็นไปได้ที่อาจเห็นสหรัฐฯประกาศแผนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนฉบับใหม่ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเมื่อวานนี้ร่วงลงจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไมโครชิพ ประกอบกับความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการตรวจสอบบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ (Social Medial)
• ตลาดหุ้นเอเชียปิดปรับตัวลงเช้านี้ท่ามกลางความเป็นไปได้จากความตึงเครียดด้าน Trade War ของสหรัฐฯ-จีนที่คาดว่าอาจเกิดขึ้นในวันนี้
เช้านี้ ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.7% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.97% หลังสำนักข่าว WSJ เผยบทความที่ว่า นายทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับ นายเจมส์ ฟรีแมน นักคอลัมม์นิสต์ ที่ระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีปัญหาทางการค้ากับสหรัฐฯรายต่อไป
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า ภาวะสงครามทางการค้าที่กำลังดำเนินไประหว่างสหรัฐฯ-จีนอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง หลังมีรายงานว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์อาจเผยภาษีเรียกเก็บสินค้านำเข้าจากจีนด้วยมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านเหรียญ โดยอาจเปิดเผยข้อมูลในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาฮ่องกง หรือประมาณ 11.00น. ตามเวลาไทย โดยที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน ก็พร้อมจะทำการตอบโต้หากมีการประกาศจริง
· นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา คือ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเดือนส.ค. ในคืนนี้ หากตัวเลขออกมาดีกว่าที่คาดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า และเงินบาทของไทยก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้ต่อ