· ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เคลื่อนไหวผสมผสาน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ยังคงระมัดระวังการลงทุนท่ามกลางความเสี่ยงด้านสงครามการค้า
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางแตกต่างกัน
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับประเด็นที่สหรัฐฯจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่บริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของปริมาณชิปในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยร่วงลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่ง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่วิตกกังวลว่าสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประเด็นที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเพิ่มมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นกับบริษัทโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.8% ที่ระดับ 22,307.06 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลงไปแล้ว 2.4% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ดัชนี Shanghai Composite และดัชนีหลุ่มบลูชิพปิดปรับตัวลเลง เนื่องจากเป็นวันที่กำหนดเส้นตายสำหรับสหรัฐฯที่จะทำการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.4% ที่ระดับ 2,691.59 จุด