• ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,195.91 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดปรับขึ้น 60 เซนต์ หรือ +0.1% ที่ 1,199.8 เหรียญ
• ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังต่อความคืบหน้าของข้อตกลง Brexit ที่ช่วยหนุนให้ค่าเงินยูโรและค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และทำให้ราคาทองคำในอังกฤษและยูโรโซนปรับตัวลงและน่าสนใจต่อกลุ่มผู้ซื้อ
• นายไมเคิล เบรเนีย หัวหน้าผู้แทนเจรจาของอียู กล่าวว่า ข้อตกลง Brexit จะเกิดขึ้นได้จริงในอีก 6-8 สัปดาห์
• ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 12% จากระดับสูงสุดในเดือนเม.ย. ที่ระดับ 1,365.23 เหรียญ ท่ามกลางข้อขัดแย้งทางการค้า ขณะที่การอ่อนค่าของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์นั้นแข็งค่าขึ้น
• รองประธานฝ่ายบริหารการลงทุนจาก Dillon Gage Metals กล่าวว่า นักลงทุนมีการต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินดอลลาร์ในภาวะที่มีปัญหาทางการค้า โดยจะเห็นได้ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงท่าทีที่พร้อมจะเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมด ขณะที่จีนก็ไม่ยอมและจะทำการตอบโต้กลับเช่นกัน
• เมื่อวานนี้ค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าลงมาอีกครั้ง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับข่าวที่ว่าสหรัฐฯอาจได้รับผลกระทบจาก Trade War น้อยกว่าจีน และจีนถือเป็นประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุด
• ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ที่บ่งชี้ว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง
• นักวิเคราะห์บางรายมองว่าทองคำดูจะยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเหนือกรอบ 1,220 – 1,235 เหรียญ ขณะที่กองทุนทองคำรายใหญ่อย่าง ETF มีการปรับลดการถือครองทองคำเกือบ 5 ล้านออนซ์ หรือ -8.6%จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนพ.ค.
• นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ในท้ายที่สุด หาก Trade War สามารถมีทางแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ หรืออย่างน้อยที่สุดมีหนทางในการเจรจาทางการค้ากัน ก็อาจเห็นดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาได้
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 745.44 ตัน
• ราคาซิลเวอร์ปิด +0.5% ที่ระดับ 14.17 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.6% ที่ระดับ 783.49 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.3% ที่ระดับ 977.5 เหรียญ