ราคาทองคำทรงตัวแถว 1,195 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,201.6 เหรียญ
• ข้อมูลภาคแรงงานรัฐบาลที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯได้ช่วยหนุนกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. ที่อาจเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้ ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้น่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือนธ.ค.
• นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Phillip Futures กล่าวว่า ราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังเศรษฐกิจสหรัฐฯแสดงถึงภาวะแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่ผ่านมา
• บรรดาเหล่าเทรดเดอร์ จับตาดูความเป็นไปได้ที่จะเกิดความตึงเครียดทางการค้ามากขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สหรัฐฯดูมีท่าทีจะเพิ่มการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมากขึ้น และประเด็นดังกล่าวได้จุดประกายให้บรรดานักลงทุนมีการเข้าซื้อดอลลาร์มากขึ้นเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบจาก Trade War น้อยกว่าประเทศจีน
• นักวิเคราะห์บางส่วน ระบุว่า การเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน ดูจะบั่นทอนภาวการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในระยะยาวได้ อย่างไรก็ดี ความต้องการสินทรัพย์ Safe-Haven ยังคงอ่อนตัวอยู่ในระยะสั้นๆ เนื่องจากโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อ
• นักวิเคราะห์จาก FXTM มองว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแรงสนับสนุนหลักมาจากการขึ้นดอกเบี้ย และนี่อาจเป็นผลสะท้อนที่กระทบทองคำ ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวลงมาที่ 1,185 – 1,160 เหรียญ ในระยะสั้น-ระยะกลาง
• เหล่าเทรดเดอร์บางส่วนก็กล่าวเตือนถึงภาวะความต้องการซื้อทองคำที่เบาบางในเอเชียสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูว่าราคาจะหลุดลงมาต่อหรือไม่
• นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า ราคาทองคำพยายามกลับหาแนวต้าน 1,200 เหรียญ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอขายเมื่อราคาฟื้นตัวและทำให้ราคาทองคำยังไม่สามารถกลับยืนเหนือระดับดังกล่าวได้
• ราคาซิลเวอร์ขยับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 14.19 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 1% ที่ 790.2 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.6% ที่ 981.1 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 12 สัปดาห์ บริเวณ 991.15 เหรียญ
• วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค : สัญญาณของทิศทางขาขึ้นก่อตัวขึ้นที่ระดับ $1,190 และมีเป้าหมายที่ $1,226
ทิศทางขาลงของทองคำเริ่มหมดกำลังลงตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังราคาลงไปทำระดับต่ำสุดที่ $1,172.82
ดังนั้น ตลาดจึงพยายามกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยมีเทรนขาขึ้นเริ่มต้นขึ้นที่ระดับ $1,182.90 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 24 ส.ค. โดยราคาจะกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะสั้นได้หากสามารถ Break ระดับ 1,204.10 เหรียญ (ระดับต่ำสุดของวันที่ 3 ส.ค.) ขึ้นมา รวมถึงเส้นค่าเฉลี่ยราย 50, 100, และ 200 วัน ขณะที่เป้าหมายของทิศทางขาขึ้นจะอยู่ที่ $1,220.90 (ต่ำสุด 18 ก.ค.) และ $1,225.90 (ต่ำสุด 17 ก.ค.)
อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดระดับ 1,182.90 ลง จะทำให้สัญญาณของทิศทางขาขึ้นจบลง และราคาจะมีโอกาสกลับลงไปทดสอบระดับต่ำสุดของปี 2018 อีกครั้ง
• นักวิเคราะห์จาก DailyFX มองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways มีแนวโน้มที่จะทรงตัวได้เหนือระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 15 ส.ค. ที่ 1,160 เหรียญ แต่ถ้าหากราคายังอยู่เหนือระดับดังกล่าวได้ก็จะยังส่งสัญญาณเป็นขาขึ้น
• นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนก.ย. 61 อยู่ที่ 46.09 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 4.29 จุด จากเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาจากระดับ 41.80 จุด หรือคิดเป็น 10.25% โดยมีปัจจัยสนุนสนุนมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แรงซื้อเก็งกำไร และนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามลำดับ
ขณะที่ปัจจัยราคาทองคำที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1. นโยบายทางการเงินของเฟด 2.สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน 3.ค่าเงินบาทที่แข็งค่า 4.การเจรจาการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา 5.ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจของตุรกี และปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและตุรกี