• ดัชนีดาวโจนส์ปิด +113.99 จุด คิดเป็น +0.44% ที่ระดับ 25,971.06 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.37% ที่ระดับ 2,887.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.61% ที่ระดับ 7,972.47 จุด
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นได้ติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน ท่ามกลางภสวะ Trade War ที่ยังดำเนินอยู่
• ดัชนี MSCI ซึ่งเป็นมาตรวัดตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นประมาณ 0.17% จากกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะดำเนินการเช่นไรหลังจากที่แสดงความต้องการจะเรียกเก็บภาษีสินค้าชุดใหม่ของจีน
• นักวิเคราะห์จาก CMC Markets มองว่า ในความเป็นจริงนายทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศใช้นโยบายภาษีสินค้านำเข้าอย่างที่คาดการณ์กันไว้ จึงมีแรงหนุนส่วนหนึ่งกลับเข้าตลาดหุ้น แม้ว่าบรรดานักลงทุนจะมีท่าทีระมัดระวังก็ตาม
• เมื่อวานนี้ ทางการจีนแจ้งองค์การการค้าโลกหรือ WTO ต่อความต้องการเก็บภาษีสหรัฐฯ 7 พันล้านเหรียญต่อปี เพื่อเป็นการคว่ำบาตรและตอบโต้การที่สหรัฐฯไม่ยอมปฏิบัติตามกฎการค้า และมีการละเมิดต่อกฎการค้าโลก
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุกับผู้สื่อข่าวว่าจะยังคงมีท่าทีเข้มงวดทางการค้ากับจีน ขณะเดียวกันก็มีการกล่าวถึงการเจรจาการค้ากับแคนาดาที่เป็นไปด้วยดี
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในเช้านี้ จากการที่จีนยื่นคำร้องต่อองค์การค้าโลกเพื่อหาบทลงโทษผ่านมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯที่ละเมิดกฎการค้า โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.18% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.13%
• นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์ต่อไป โดยตลาดยังคงกังวลความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน