• ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้งในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินหยวน หลังจากที่มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุถึงความพร้อมในการเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 2 แสนล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายงานใกล้เคียงกับรายงานฉบับแรกของสำนักข่าว Bloomberg ที่เปิดเผยในช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
• หัวหน้าฝ่ายการซื้อขายจาก U.S. Global Investors กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันราคาทองคำ และทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้น S&P500 ปรับตัวลง
• ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.5% ที่ระดับ 1,195.21 เหรียญ หลังไปทำระดับสูงสุบริเวณ 1,212.65 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 28 ส.ค. และภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วราคาทองคำปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ส่งผลให้เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ที่เห็นถึงการปรับขึ้นของราคาทองคำ
• สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดลดลง 7.1 เหรียญ คิดเป็น -0.6% ที่ระดับ 1,201.1 เหรียญ
• ขณะที่ปัญหาทางการค้าที่ยืดยาวระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ทำให้นักลงทุนหันเข้าซื้อดอลลาร์เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศคู่ค้าอื่นๆ ขณะที่ทองคำดูเหมือนจะเคลื่อนไหวตอบรับกับค่าเงินของประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดเช่นกัน
• นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่าจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
• กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 742.53 ตัน
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.4% ที่ระดับ 14.1 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นได้ 0.1% ทางด้านราคาพลาเดียมปิด -0.4% ในคืนวันศุกร์ที่ระดับ 978.3 เหรียญ สำหรับภาพรวมปรับตัวลงไปประมาณ 0.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว
• ทางด้านราคาแพลทินัมปิด -0.9% ที่ระดับ 793 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ระดับ 812.3 เหรียญ และส่งผลให้ภาพรวมปิดสัปดาห์ที่แล้ว +1.9%