• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 กันยายน 2561

    18 กันยายน 2561 | SET News

• อนุพันธ์ซื้อขายหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าปรับตัวลดลงอย่างหนัก ภายหลังจากประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนฉบับล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงบ่งชี้ว่าดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มที่จะเปิดตลาดคืนวันอังคารนี้ร่วงลงมากว่า -100 จุด

ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 มีแนวโน้มที่จะเปิดลดลง 0.6% และ 1.4% ตามลำดับ

• วิเคราะห์ดัชนี S&P500 ทางเทคนิค : ดัชนีปิดตลาดแดนลบใกล้ระดับ 2,900 จุด

FX Street ประเมินว่า ดัชนี S&P500 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้จะปิดตลาดนิวยอร์กในแดนลบ แต่ทิศทางหลักก็ยังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

โดยดัชนีเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50, 100 และ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณของทิศทางขาขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากเส้น RSI และ MACD เริ่มชะลอตัวลง ดังนั้นดัชนีจำเป็นต้อง Break ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หรือระดับ 2,917.00 จุดไปให้ได้ ถึงจะสามารถเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อ

ระดับที่ต้องจับตา:

แนวต้าน 1: 2,900.00

แนวต้าน 2: 2,917.00 (ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์)

แนวต้าน 3: 2,930.00

แนวต้าน 4: 2,950.00

แนวรับ 1: 2,877.00 (ระดับต่ำสุด ม.ค.)

แนวรับ 2: 2,863.75 (ระดับสูงสุด 7 ส.ค.)

แนวรับ 3: 2,853.00 (ระดับต่ำสุด 9 ส.ค.)

• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า จะทำการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% สู่ระดับ 2 แสนล้านเหรียญ

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เปิดลดลง 0.7% ท่ามกลางหุ้นภาคธนาคาร เทคโนโลยี เทเลคอม และยอดค้าปลีก เคลื่อนไหวในแดนลบ

โดยตลาดให้ความสนใจไปยังประเด็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหวางสหรัฐฯและจีน

·       ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากตลาดจีนปรับตัวดีขึ้นกับรอบใหม่หลังสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าครั้งใหม่จากจีน แม้ว่าเหล่านักลงทุนจะระมัดระวังการลงทุนท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงในช่วงก่อนหน้า และปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.3%

·       ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ว่าซัพพลายเออร์อิเลคทรอนิคส์ปรับแย่ลงจากการที่Apple Inc กล่าวว่าการตัดสินใจทางภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปรับ 1.4% ซึ่งภาพรวมรายวันเป็นการปรับตัวสูงขึ้นที่สุดในรอบ สัปดาห์ ที่ระดับ 23,420.54 จุด

·       ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนฉบับใหม่เป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ ทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศมีท่าทีเลวร้ายลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนสามารถรีบาวน์กลับขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากที่เคลื่อนไหวอ่อนแอในช่วงเช้า ท่ามกลางแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับสูงขึ้นจากความคาดหวังว่ารับบาลจะเร่งเดินหน้านโยบายถนนสายไหมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยดัชนี Shanghai Composite Index ปรับสูงขึ้น 1.1% ที่ 2,680.99 จุด

·       รายงานจาก CNBC ระบุว่า บรรดานักกลยุทธ์มีมุมมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ธปท. จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อหารือแนวทางการตัดสินใจดำเนินนโยบาย ภายใต้แรงกดดัน ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ 1.5% ในช่วงที่ไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากถึง 4.6%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ดี หน่วยงานของไทยยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ 4.2 - 4.7% และมีการปรับเพิ่มเป้าส่งออกแม้ว่าจะเผชิญความตึงเครียดทางการค้าระดับโลก

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com