• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่กลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ หลังสหรัฐฯและจีนต่างประกาศภาษีนำเข้าสินค้าครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งต่างน้อยกว่าที่ตลาดกังวลไว้จึงทำให้เกิดความต้องการในค่าเงินดอลลาร์ฐานะ Safe-Haven เป็นไปอย่างจำกัด
ขณะเดียวกัน ภาวะแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ชะลอตัวไปเนื่องจากไม่มีเหตุผลใหม่ๆมาสนับสนุน ขณะที่ตลาดตอบรับกับข่าวที่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯจะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 93.91 จุด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 9 ก.ค. บริเวณ 93.829 จุด โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงไปกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ จากกลุ่มนักลงทุนที่คลายกังวลต่อ Trade War ขณะที่ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ก็มีการปรับแข็งค่าขึ้นมา
ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1777 ดอลลาร์/ยูโร หลังขยับขึ้น 0.9% ในวันก่อนหน้าไปทำระดับสูงสุดรอบ 3 เดือนที่ 1.1785 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 112.48 เยน/ดอลลาร์ หลังจากเมื่อคืนนี้ไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 2 เดือนที่ 112.585 เยน/ดอลลาร์
• ทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานทางการทหารของรัฐบาลจีน หลังหน่วยงานดังกล่าวมีการซื้อเครื่องบินรบและระบบขีปนาวุธจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่สหรัฐฯประกาศใช้จากข้อกล่าวหาที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2016
โดยกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯประกาศให้มาตรการคว่ำบาตรผีผลบังคับใช้ทันทีกับหน่วยงานพัฒนายุทโธปกรณ์แห่งประเทศจีน (Equipment Development Department (EDD)) ซึ่งได้ทำธุรกรรมร่วมกับบริษัทค้าอาวุธ Rosoboronexport ของรัสเซีย
• คณะกรรมการด้านความมั่นคงทางการเงินแห่งเม็กซิโก ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อระบบการเงินของเม็กซิโกคือความขัดแย้งทางการค้าที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความไม่สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ลงในตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจเม็กซิโกเช่นกัน
• การเจรจาภายใต้สนธิสัญญา NAFTA ระหว่างสหรัฐฯและแคนาดา ยังคงไร้ซึ่งสัญญาณของการหาข้อตกลงร่วมกันได้ โดยทางแคนาดาต้องการให้สหรัฐฯรับรองให้ได้ว่าจะไม่มีการขึ้นภาษีรถยนต์อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทางสหรัฐฯกำหนดเส้นตายของการเจรจาไว้ที่สิ้นเดือน ก.ย. นี้ เพื่อให้ทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา สามารถลงนามร่วมกันในสนธิสัญญา NAFTA ฉบับยกเครื่องใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทางแคนาดาดูเหมือนจะไม่ถูกกดดันด้วยเส้นตายดังกล่าว โดยตัวแทนการเจรจาของแคนาดายืนยันว่าต้องการหาข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับชาวแคนาดาให้สำเร็จ
• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อีซีบี กล่าวว่า ในปีหน้าอีซีบีอาจจำเป็นต้องมีการสื่อสารถึงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ได้ทำการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกไปแล้ว เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาในตลาด และการชะลอตัวของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
• กลุ่มผู้นำของอียูจะทำการผลักดันข้อตกลง Brexit ในเดือนหน้า แต่กล่าวเตือน นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยระบุว่า หากเธอไม่ผลักดันข้อตกลงการค้าและข้อตกลงพรมแดนไอร์แลนด์ได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ พวกเขาก็พร้อมที่จัดการต่อการแยกตัวของอังกฤษ
• นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่านายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ต้องการจะจัดการประชุมร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้ง เพื่อเร่งกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ขณะที่เป้าหมายของทั้ง 2 ชาติเกาหลีที่มุ่งมั่นทำให้สำเร็จภายในปีนี้ คือการร่วมกันประกาศยุติภาวะสงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลีเมื่อปี 1950-1953
• ทางการสหรัฐฯระบุว่าพวกเขามีความพร้อมที่จะร่วมจัดการประชุมกับเกาหลีเหนืออีกรอบได้ หลังจากที่เกาหลีเหนือให้คำสัญญาว่าจะทำลายสถานที่พัฒนาขีปนาวุธและปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เมืองยองบยอน หากสหรัฐฯยินดีที่จะจัดการประชุมร่วมกัน
• รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ เผยว่า การขยายตัวของภาคแรงงานในเกาหลีใต้จะยังชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปี ท่ามกลางความพยายามสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่การเงินที่ยังไม่รวดเร็วเพียงพอที่จะชดเชยต่อการสูญเสียในภาคการจ้างงานของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและภาคเอกชน
• ผลสำรวจจาก Markit เผยว่า ข้อมูลดัชนีภาคการผลิต หรือ PMI ของญี่ปุ่นออกมาขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดสู่ระดับ 52.9 จุดในเดือนก.ย. จากระดับ 52.5 จุดในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับปัจจัยขับเคลื่อนภายในประเทศประกอบกับยอดส่งออกที่ปรับตัวขึ้น แต่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจของญี่ปุ่นกลับปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 2 ปีที่ 55.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่พ.ย. ปี 2016 จากเดิมที่ 57.1 จุดในเดือนส.ค. จากภาวะตึงเครียดทางการค้า
• ทางด้านดัชนีเงินเฟ้อหรือ Core CPI ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค. แต่ภาพรวมยังคงอยู่ห่างจากระดับเป้าหมาย 2% ที่ทางบีโอเจกำหนด และนั่นบ่งชี้ว่า บีโอเจอาจยังต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไปในเวลานี้
• ราคาน้ำมันดิบปิดอ่อนตัวลงหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตในที่ประชุมประเทศอัลจีเรีย ขณะที่ภาวะขาขึ้นของน้ำมันดิบชะลอตัวลงหลังจากที่ตลาดกลับขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 78 เซนต์ ที่ระดับ 78.7 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 32 เซนต์ ที่ระดับ 70.8 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่วันพุธปรับขึ้นไปได้กว่า 2%
อย่างไรก็ดี น้ำมันดิบ Brent ยังคงมีการซื้อขายต่ำกว่าระดับ 80 เหรียญ/บาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรต่ออิหร่านซึ่งเป็นประเทศผู้นำการผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มโอเปกจะช่วยลดภาวะอุปทานตลาดโลก